เคล็ดลับการเลือกโครงสร้างหลังคาโรงจอดรถให้ใช้งานได้ยาวนาน ทนแดด ทนฝน

โรงจอดรถ อาจดูเป็นโครงสร้างเล็กๆที่ต่อเติมอยู่หน้าบ้านหรือข้างบ้าน แต่จริงๆแล้วถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องรถยนต์จากแสงแดด ฝน ความชื้น และมลภาวะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะสำหรับบ้านขนาดกะทัดรัดอย่าง ทาวน์โฮม ที่ต้องใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าและลงตัว การต่อเติมหลังคาโรงจอดรถทาวน์โฮม อย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน โดยหลังคาที่ดีต้อง ระบายความร้อนได้ดี แข็งแรง ทนต่อแรงลมฝน และออกแบบให้กลมกลืนกับตัวบ้าน แม้โรงจอดรถจะไม่ใช่พื้นที่หลักของบ้านแต่หากออกแบบและเลือกวัสดุให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณจอดรถได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลปัญหาจุกจิก เช่น สีเสื่อมสภาพจากแสงแดด หรือความชื้นที่เร่งการเกิดสนิม ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถให้เราในระยะยาวได้อีกด้วยครับ

 ในบทความนี้เราเลยอยากชวนคุณมาทำความเข้าใจแบบง่ายๆ ไปด้วยกันว่าทำไมโครงสร้างหลังคาโรงจอดรถถึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม มีปัจจัยอะไรที่ควรพิจารณาทั้งเรื่องวัสดุ รูปแบบประเภทของโครงสร้าง ความทนทาน พร้อมบอกเคล็ดคลับการเลือกโครงสร้างที่เหมาะกับบ้านเราโดยเฉพาะ เพื่อที่คุณจะได้โรงจอดรถที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ใช้งานได้จริงอย่างมั่นคงและยาวนานครับ

ต่อเติมหลังคาโรงจอดรถในบริเวณบ้านดียังไง?

การทำหลังคาโรงจอดรถในบริเวณบ้าน ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและป้องกันรถจากแดดฝน แต่ยังเป็นหนึ่งในการต่อเติมบ้านที่คุ้มค่า ใช้งานได้จริง เพิ่มคุณภาพชีวิต และช่วยยกระดับบ้านทั้งในด้านฟังก์ชัน และภาพลักษณ์ให้บ้านดูสวยขึ้น และน่าอยู่ขึ้นอีกด้วยครับ

  • รถจอดตากแดดตากฝนทุกวัน ยังไงก็พังไวครับ

แดดเมืองไทยไม่ใช่เล่น ๆ รถจอดตากแดดทุกวัน สีซีด แดชบอร์ดแตกร้าว ภายในอบอ้าว พอเข้าหน้าฝน ฝนสาด น้ำซึมเข้าระบบไฟฟ้า ไม่พังในวันนี้ วันหน้าต้องมีซ่อมแน่นอนครับ ไหนจะคราบฝุ่น ขี้นก คราบน้ำที่ฝังแน่น ล้างเท่าไหร่ก็ไม่หมด ต้องเคลือบสีใหม่อยู่เรื่อย ๆ ฟังดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่นี่แหละครับคือรายจ่ายยิบย่อยที่สะสมจนหมดเงินไม่รู้ตัว การต่อเติมโรงจอดรถแบบมีหลังคาดีๆ ไปเลยตั้งแต่แรก มันช่วยลดความเสี่ยงพวกนี้ได้เยอะ ช่วยถนอมสภาพรถ แถมประหยัดค่าดูแลรักษาได้ในระยะยาว จะจอดรถทั้งทีก็ขอให้มันปลอดภัย ไม่ต้องลุ้นทุกครั้งที่ฝนจะตกหรือแดดจะออกทำครั้งเดียว จบ คุ้มครับ

  • เพิ่มความเป็นระเบียบ เสริมภาพลักษณ์ให้กับบ้าน

บ้านที่มีโรงจอดรถที่ออกแบบให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ มีหลังคาครอบคลุม จะช่วยให้หน้าบ้านดูเรียบร้อย นอกจากจะดูดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าอยู่ให้กับบ้านอีกด้วยโดยเฉพาะถ้าเลือกวัสดุและโครงสร้างที่เข้ากับสไตล์ของบ้าน ก็ยิ่งช่วยเสริมลุคให้บ้านดูทันสมัย มีดีไซน์ชัดเจนขึ้นแบบไม่ต้องพยายามมากครับ

  • เพิ่มพื้นที่ใช้สอยรอบบ้าน

ใครว่าหลังคาโรงจอดรถเอาไว้ใช้จอดรถอย่างเดียวละครับ หลายบ้านใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นมุมนั่งเล่น มุมทำสวน ทำกิจกรรมกับลูก หรือแม้แต่จัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ ก็ยังได้ ยิ่งถ้าเป็นพื้นที่ที่มีหลังคาคลุมอย่างดี ก็ใช้ประโยชน์ได้แทบทั้งปี ไม่ต้องกลัวฝนหรือแดดเลยครับ เรียกได้ว่า เป็นมุมอเนกประสงค์สารพัดประโยชน์ ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าเลยครับ

  • เสริมความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินและคนในบ้าน

การมีโรงจอดรถในบริเวณบ้าน ไม่เพียงแค่ป้องกันแดดฝน แต่ยัง ช่วยกำหนดขอบเขตให้กับทรัพย์สิน และป้องกันอันตรายจากสิ่งรอบข้าง โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ การเดินเข้า-ออกจากรถภายใต้หลังคา ก็ปลอดภัยกว่ามากครับ

  • เพิ่มความสวยงามและมูลค่าของบ้าน

การออกแบบโรงรถให้เข้ากับสไตล์บ้าน เช่น ใช้โครงเหล็กกล่องกับแผ่นหลังคาเมทัลชีท หรือหลังคาแผ่นเรียบแบบโมเดิร์น สามารถทำให้ บ้านดูหรู ดูแพงขึ้นได้ทันตา และเมื่อถึงเวลาขายบ้าน ก็มีจุดขายที่ดึงดูดผู้ซื้อให้สนใจได้ดีกว่า

โรงจอดรถหน้าบ้านควรมีพื้นที่เท่าไหร่?

ตามกฎหมายช่องจอดรถขั้นต่ำต้องมีขนาดอย่างน้อย 2.4 x 5 เมตร สำหรับบ้านทาวน์โฮมเป็นบ้านที่สร้างติดกันหลายหลัง มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างจำกัด เพราะบ้านใช้กำแพงบ้านร่วมกัน ต้องคำนึงถึงระยะร่นเป็นพิเศษ ส่วนการต่อเติมตามโรงจอดรถบ้านเดียว ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการใช้สอยเพิ่มเติม และข้อกฎหมายต่าง ๆ ด้วย โดยทั่วไปแล้ว ขนาดของโรงจอดรถที่พอเหมาะ จะอยู่ที่ประมาณนี้ 

  • จอดรถ 1 คัน : โรงจอดรถควรกว้างประมาณ 3 เมตร และยาว 5.5 เมตร จะได้ไม่แคบเกินไปและมีพื้นที่พอสมควรในการเปิดประตูรถได้สะดวก
  • จอดรถ 2 คัน : ควรขยับความกว้างเป็น 6 เมตร ส่วนความยาวยังคงอยู่ที่ 5.5 เมตร แบบนี้จะทำให้จอดรถได้พอดีและไม่รู้สึกแออัด
  • จอดรถ 3 คันขึ้นไป : โรงจอดรถก็ควรกว้างมากขึ้นไปอีก เช่น 9 เมตร สำหรับ 3 คัน โดยที่ความยาวยังคงอยู่ที่ประมาณ 5.5 เมตร หรืออาจจะมากกว่านั้นหากมีรถขนาดใหญ่

ที่สำคัญอย่างลืมเรื่องความสูงด้วยนะครับ ควรสูงอย่างน้อย 2.2 เมตรขึ้นไป เพื่อไม่ให้ติดหลังคารถ และถ้าถนนหน้าบ้านแคบ อาจต้องเผื่อพื้นที่หมุนรถ เผื่อระยะยื่นออกจากตัวบ้าน และเผื่อด้านข้างรถประมาณ 1 เมตร สำหรับเดินผ่านด้วยนะครับ

การทำหลังคาโรงจอดรถ ในบริเวณบ้าน ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและป้องกันรถจากแดดฝน แต่ยังเป็นหนึ่งในการต่อเติมบ้านที่คุ้มค่า ใช้งานได้จริง เพิ่มคุณภาพชีวิต

แบบหลังคาโรงจอดรถสร้างได้กี่รูปแบบ?

หลายคนที่คิดว่าจะต่อเติมแต่ก็ยังลังเลว่าจะทำหลังคาโรงจอดรถแบบไหนดี เพราะหลังคาโรงจอดรถมีให้เลือกอยู่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะขอยกแบบที่นิยมและใช้ได้จริงมาให้ทั้งหมด 4 รูปแบบหลักนะครับ มาดูกันว่าแต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมต่างกันไปยังไงกันบ้างครับ

  • โรงจอดรถแบบตั้งเสา 4 ต้น ไม่ยึดโครงสร้างตัวบ้าน เป็นรูปแบบยอดนิยมที่สุดในการต่อเติมหลังคากันสาดสำหรับจอดรถหน้าบ้าน โดยพื้นที่ดั้งเดิมไม่มีโครงสร้าง การต่อเติมรูปแบบนี้ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงเสาเข็ม หากต่อไปในอนาคตพื้นทรุดตัว หลังคากันสาดก็จะแยกอิสระออกจากตัวบ้านไม่ดึงโครงสร้างตัวบ้านเสียหาย
  • โรงจอดรถแบบตั้งเสา 2 ต้น รูปแบบนี้จะแตกต่างกับการตั้งเสาหลังคา 4 ต้นคือ เราจะลงเสาเข็มไมโครไพล์รับน้ำหนักเสาหลังคาต้นด้านหน้า เพื่อป้องกันการทรุดตัวในอนาคต และด้านหลังจะยึดเข้ากับโครงสร้างเดิมของตัวบ้าน การต่อเติมรูปแบบนี้เป็นการแยกส่วนโครงสร้างหลังคาและพื้น ในอนาคตหลังคาจะไม่ทรุดตัว แต่พื้นลานจอดรถจะยังทรุดตัวได้อยู่ครับ
  • โรงจอดรถบนพื้นโครงสร้างใหม่ทั้งหมด สำหรับพื้นที่ดั้งเดิมที่ยังไม่มีโครงสร้าง สามารถลงเสาเข็มไมโครไพล์ทำพื้นโครงสร้างใหม่ทั้งหมด และต่อเติมหลังคาโรงจอดรถบนพื้นใหม่ที่มีโครงสร้างแล้ว การต่อเติมรูปแบบนี้ทั้งหลังคาและพื้นจะไม่ทรุดตัวแล้ว รองรับการต่อเติมในอนาคตสามารถก่อผนังกั้นห้องปิดทึบได้
  • หลังคากันสาดแบบค้ำยัน เป็นรูปแบบยอดนิยมรองลงมาจากแบบแรก เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวในอนาคต ประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงเสาเข็ม แต่มีข้อจำกัดคือสามารถทำหลังคากว้างได้ไม่เกิน 1.50 ม.

สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ เลยคือ โรงจอดรถแบบมีเสาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแข็งแรงทนทานสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลายมีงบประมาณระดับนึง และโรงจอดรถแบบไม่มีเสาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายประหยัดค่าใช้จ่ายและต้องการพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางนั่นเองครับ 

โครงสร้างหลังคาโรงจอดรถที่เราเลือกใช้

การสร้างโรงจอดรถที่ดีเพื่อให้เหมาะสมกับตัวบ้าน ไม่ใช่แค่การเลือกพื้นที่จอดรถให้กว้างขวางเท่านั้นนะครับ แต่ยังรวมไปถึงการเลือกโครงสร้างหลังคา ที่จะทำให้โรงจอดรถมีความทนทาน ปลอดภัย และสามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวล เรามาทำความรู้จักกับโครงสร้างหลังคาโรงจอดรถที่ ADDZestHome เลือกใช้กันครับ 

โรงจอดรถโครงเหล็กกล่องขนาด 2.3 มม. มาตรฐาน มอก. 

โครงสร้างโรงจอดรถที่ใช้เหล็กกล่องขนาด 2.3 มม. มาตรฐาน มอก.(มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย) ถือเป็นตัวเลือกที่ทั้งแข็งแรง ทนทาน และไว้วางใจได้ในระยะยาวครับ เหล็กกล่องขนาดนี้มีความหนาพอเหมาะ รองรับน้ำหนักหลังคาได้ดี ไม่แอ่นตัวง่าย และทนต่อแรงลมแรงฝน เหมาะกับสภาพอากาศแปรปรวนในเมืองไทย หากทำสีพ่นกันสนิมและดูแลพื้นผิวอย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานหลายปี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการผุกร่อนหรือโครงสร้างอ่อนแรงในอนาคตครับ

ตารางเปรียบเทียบความหนาเหล็กกล่องสำหรับโครงสร้างโรงจอดรถ

ความหน(มม.) ความแข็งแรง น้ำหนัก ราคาต่อเมตร เหมาะสำหรับ หมายเหตุ
1.6 มม. ปานกลาง เบา ประหยัด โรงจอดรถขนาดเล็ก / กันสาดเบา ราคาถูก แต่อายุใช้งานสั้นกว่า
2.0 มม. แข็งแรงขึ้น ปานกลาง กลาง ๆ งานต่อเติมทั่วไป เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความคงทนมากขึ้น
2.3 มม. แข็งแรงสูง ค่อนข้างหนัก สูงกว่าปานกลาง โรงจอดรถที่เน้นความมั่นคง

ใช้งานได้ยาวนาน

ได้มาตรฐาน มอก. เหมาะกับบ้านที่ต้องการความมั่นใจเรื่องโครงสร้าง
3.2 มม. แข็งแรงมาก หนัก สูง อาคารพาณิชย์ / โรงงานขนาดเล็ก เหมาะสำหรับงานที่รับน้ำหนักมากเป็นพิเศษ

ถ้าคุณต้องการความแข็งแรง มั่นคง ไม่ต้องกังวลเรื่องโครงสร้างในระยะยาว เหล็กกล่อง 2.3 มม. มอก. คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด

เคล็ดลับการต่อเติมโรงจอดรถให้ใช้งานได้ยาวนาน ทนแดด ทนฝน

จะต่อเติมโรงจอดรถทั้งที ต้องเลือกให้คุ้ม ใช้งานได้นาน ไม่ต้องซ่อมบ่อย โดยเฉพาะสภาพอากาศบ้านเราที่มีความร้อนชื้นเป็นหลัก หลังคาโรงจอดรถจึงไม่ควรมีดีแค่สวย แต่ต้อง แข็งแรง ทนแดด ทนฝนจริง รองรับน้ำหนักได้ดี ไม่ผุง่าย ดังนั้นมาดูเคล็ดลับดีๆ ในการต่อเติมโรงจอดรถให้ใช้งานได้นาน แข็งแรงและไม่ต้องซ่อมบ่อย กันเลยครับ

  1. เลือกวัสดุที่ทนต่อสภาพอากาศ

ก่อนอื่นเลยต้องรู้ก่อนว่าวัสดุที่ใช้ในโครงสร้างโรงจอดรถมีหลายแบบ เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ไม้ โพลีคาร์บอเนต เมทัลชีท ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ควรเลือกวัสดุหลังคาโรงจอดรถที่ไม่ผุกร่อนง่าย ไม่บิดงอ และไม่เสื่อมสภาพไวจนเกินไปเมื่อเจอความร้อนสูงหรือความชื้น เพราะถ้าเลือกวัสดุหลังคาที่รับแสงแดดไม่ดี ก็อาจจะกรอบ แตก หรือซีดเร็ว เช่น แผ่นโพลีคาร์บอเนตเกรดต่ำ หรืออะคริลิกบาง ๆ

โครงเหล็ก : แข็งแรง แต่ควรชุบกันสนิม

อะลูมิเนียม : เบา ไม่เป็นสนิม แต่ต้องเสริมความแข็งแรง

โพลีคาร์บอเนต : โปร่งแสง ทนแดดได้ดี แต่ควรเลือกแบบเคลือบ UV

ไม้ : สวยงาม แต่ต้องเคลือบกันปลวกและเชื้อราให้ดี

  1. ออกแบบโครงสร้างให้แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี

โครงสร้างที่ดีไม่ได้หมายถึงแค่แข็งแรง แต่ต้องออกแบบให้เหมาะสมกับประเภทของวัสดุที่ใช้ทำหลังคาด้วยครับ เพราะวัสดุแต่ละชนิดมีน้ำหนักไม่เท่ากัน และมีคุณสมบัติที่ต่างกันเมื่อเจอกับ ทั้งความร้อน ความชื้น ลมแรง หรือแม้แต่ตอนเจอพายุกระหน่ำ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเลือกใช้วัสดุหลังคาประเภทที่มีน้ำหนักมาก อย่างกระเบื้องลอนคู่ หรือ เมทัลชีทแบบหนา ซึ่งถึงแม้จะทนทาน แต่ก็มาพร้อมกับน้ำหนักที่มากตามไปด้วยใช่ไหมครับ ถ้าดันทะลึ่งไปจับคู่กับโครงเหล็กที่ขนาดไม่ได้มาตรฐานหรือเสาที่มีขนาดเล็กเกินไป หรือวางโครงสร้างโดยมีระยะห่างระหว่างเสาและคานมากเกินความเหมาะสม ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้เลย เพราะโครงสร้างแบกรับน้ำหนักไม่ไหว โดยเฉพาะเมื่อใช้งานจริงไปสักระยะแล้วต้องเจอน้ำฝน ลมกระโชกแรง หรือแรงสั่นสะเทือนจากสภาพแวดล้อม

ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาอาจร้ายแรงกว่าที่คิดครับ เพราะโครงสร้างเกิดอาการแอ่น บิดตัว หรือร้ายแรงที่สุดคือทรุดหรือพังลงมา ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ที่จอดอยู่เท่านั้น แต่ยังอาจเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยหรือคนในพื้นที่อีกด้วยครับ

  1. ออกแบบให้มีความลาดเอียงที่เหมาะสม

จุดที่หลายคนมองข้ามเป็นจุดแรก ๆ เลยครับ แต่ทราบไหมครับว่าโครงสร้างหลังคาของเราจะใช้งานได้นานหรือไม่นานก็ขึ้นอยู่กับข้อนี้ด้วยนะครับ เพราะถ้าออกแบบไม่ดีปัญหาน้ำขัง รั่วซึม หรือโครงสร้างรับน้ำหนักเกินจะตามมาแน่นอนครับ

ซึ่งหลังคาที่ดีควรมีความชันหรือความเอียงพอเหมาะ เพื่อให้น้ำฝนไหลลงได้รวดเร็ว ไม่ขังอยู่นาน ๆ เพราะถ้าน้ำขังบนหลังคาเป็นเวลานานจะเพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้าง เสี่ยงต่อการแอ่นหรือพังได้ ยิ่งถ้าใช้วัสดุที่รับน้ำหนักได้น้อยอันนี้ก็เป็นการเร่งกระบวนการทำให้พังไวขึ้นเลยครับ มาดูกันครับว่าควรลาดเอียงแค่ไหนถึงจะพอดี

  • ถ้าใช้แผ่นเมทัลชีทหรือโพลีคาร์บอเนต ที่ระบายน้ำได้ดี ความลาดเอียงก็ควรอยู่ที่ประมาณ 5 – 10 องศาก็พอครับ
  • ถ้าใช้กระเบื้องลอนคู่หรือวัสดุที่มีร่องน้ำเล็ก ควรเพิ่มมุมเอียงให้มากขึ้นกว่าเดิมสักประมาณ 15 – 20 องศา
  • สำหรับพื้นที่ที่ฝนตกบ่อยหรือมีลมแรง ก็อาจต้องเพิ่มความลาดเอียงอีกเล็กน้อย เพื่อให้น้ำระบายได้เร็วขึ้น

ควรออกแบบให้แนวลาดเอียงไปในทิศทางที่ระบายน้ำได้สะดวก โดยไปยังรางน้ำหรือทางระบายน้ำ ไม่ควรให้ไหลย้อนเข้าบ้านหรือกำแพง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งโครงสร้างและวัสดุหลังคาครับ หากวางแผนดีตั้งแต่แรก จะช่วยให้โรงจอดรถใช้งานได้ยาว ๆ แบบไร้ปัญหาจุกจิก

  1. ติดตั้งระบบระบายน้ำฝนที่ดี

ข้อนี้จะเชื่อมโยงมาจากข้อที่แล้วเลยครับ สำหรับการติดตั้งระบบระบายน้ำฝน ซึ่งต้องบอกเลยว่าต่อให้หลังคาจะดีแค่ไหน ถ้าไม่มีระบบระบายน้ำฝนที่ดี ทุกอย่างก็เสียเปล่าครับ เพราะน้ำฝนที่ขังหรือไหลไม่ถูกทางอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำไหลย้อน น้ำซึมลงผนัง หรือแม้แต่น้ำท่วมในพื้นที่จอดรถได้เลย หรือที่แย่กว่านั้นคือน้ำล้นจากหลังคาแล้วไหลเข้าบ้านหรือพื้นที่รอบข้าง ทำให้พื้นลื่น เป็นคราบตะไคร่ หรือกัดกร่อนโครงสร้างโดยไม่รู้ตัวเลยครับ

ซึ่งปัญหาเหล่านี้แหละครับที่เกิดมาจากการที่ไม่มีระบบระบายน้ำฝนที่ดี หรือติดตั้งไว้แต่ไม่เพียงพอ ดังนั้นทางที่ดีควรมีรางน้ำฝนและท่อระบายน้ำที่ติดตั้งอย่างถูกหลัก ไม่อุดตันง่าย และควรออกแบบให้ระบายน้ำออกไปจากตัวบ้าน ไม่ให้ไหลย้อนหรือขังบริเวณโรงจอดรถหรือหน้าบ้านด้วยจะดีที่สุดครับ

  1. ใช้วัสดุที่มีการป้องกัน UV เพื่อยืดอายุการใช้งาน

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยยืดอายุการใช้งานหลังคาโรงจอดรถ คือการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV ได้ดี เช่น แผ่นหลังคาเมทัลชีทบุฉนวนกันความร้อนพียูโฟม ที่ช่วยสะท้อนความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ลดการอมความร้อนใต้หลังคา และช่วยป้องกันวัสดุจากการกรอบแตกหรือเสื่อมสภาพเมื่อโดนแดดแรงๆ เป็นเวลานาน จึงช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้น แถมยังช่วยลดอุณหภูมิบริเวณพื้นที่ใต้หลังคาอีกด้วยครับ

  1. เลือกช่างหรือผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์

สำคัญที่สุด คือ “อย่าประหยัดในสิ่งที่ไม่ควรประหยัด” เพราะต่อให้วัสดุคุณภาพดีแค่ไหน ถ้าผู้ติดตั้งไม่มีประสบการณ์ ก็อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเสาไม่ตรง การเชื่อมโครงสร้างไม่แน่น หรือแม้แต่การทำระบบระบายน้ำผิดมุม ซึ่งแน่นอนว่าอาจทำให้โรงจอดรถที่ควรจะอยู่ได้เป็นสิบปี พังได้ในไม่กี่ปีเลยล่ะครับ

ควรเลือกช่างหรือผู้รับเหมาที่มีผลงานให้ดู มีรีวิว หรือความชำนาญ เป็นมืออาชีพ มีความรู้เรื่องโครงสร้างจริง ๆ ควรเลือกทีมที่มีการทำงานร่วมกับวิศวกรในการควบคุมงาน เพื่อความมั่นใจ และความปลอดภัยด้วยครับ และที่สำคัญควรเลือกช่างที่มีการรับประกันหลังการขายด้วยอันนี้ก็จะดีที่สุดครับ

บ้านที่มีหลังคาโรงจอดรถ ที่ออกแบบให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ มีหลังคาครอบคลุม จะช่วยให้หน้าบ้านดูเรียบร้อย นอกจากจะดูดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าอยู่ให้กับบ้านอีกด้วยโดยเฉพาะถ้าเลือกวัสดุและโครงสร้างที่เข้ากับสไตล์ของบ้าน

ทำไมต้องเลือก ADDZestHome ในการต่อเติมโรงจอดรถของคุณ?

เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องการต่อเติมโรงจอดรถ หลายคนอาจจะเริ่มต้นด้วยการค้นหาข้อมูล หารูปแบบที่ชอบ หรือแม้แต่ลองสอบถามจากคนรู้จักว่าควรเริ่มจากตรงไหนดี แต่เรื่องที่สำคัญไม่แพ้การออกแบบหรือเลือกวัสดุก็คือ “การเลือกทีมช่างหรือบริษัทรับเหมาที่ไว้ใจได้” เพราะงานต่อเติมเป็นงานที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ความละเอียด และประสบการณ์ในการทำให้ทุกอย่างออกมาอย่างมีคุณภาพ ได้งานตรงใจ และคุ้มค่าในระยะยาว

นี่แหละครับคือเหตุผลที่ ADDZestHome กลายเป็นตัวเลือกที่เจ้าของบ้านหลายคนไว้วางใจ เราไม่ใช่แค่ทีมช่างทั่วไป แต่เราคือ “ผู้เชี่ยวชาญด้านงานต่อเติม” ที่เข้าใจทั้งเรื่องงานก่อสร้างและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง

ทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการออกแบบและต่อเติมโรงจอดรถ ด้วยทีมช่าง และทีมออกแบบที่ผ่านงานต่อเติมโรงจอดรถมามากกว่า 300 หลัง ทั้งโรงจอดรถแบบตั้งเสา 4 ต้น ไม่ยึดโครงสร้างตัวบ้าน แบบตั้งเสา 2 ต้น ไปจนถึง โรงจอดรถบนพื้นโครงสร้างใหม่ทั้งหมด ทุกงานของเราไม่ใช่แค่สวย แต่เน้น ใช้งานได้จริง ปลอดภัย และแข็งแรงในระยะยาว

วัสดุคุณภาพสูงที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ เพราะเราเข้าใจดีว่าคุณกังวลถึงปัญหาอะไรบ้าง ADDZestHome เราเข้าใจว่าโรงจอดรถต้องเผชิญทั้งแดด ฝน ลมแรง และฝุ่นควันตลอดปี เราเลยคิดเผื่อให้เสมอ ด้วยการคัดเลือกวัสดุทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน เหมาะกับหน้างาน โดยไม่กระทบกับงบประมาณให้บานปลาย  ไม่ว่าจะเป็นเหล็กชุบกันสนิม อะลูมิเนียมเกรดพรีเมียม หรือหลังคาที่ป้องกัน UV และความร้อน เพื่อให้บ้านคุณสวยและปลอดภัยใช้งานได้นานหลายปี

บริการให้คำปรึกษาฟรี พร้อมประเมินราคาก่อนเริ่มงาน เพราะเรารู้ว่าการต่อเติมบ้านเป็นเรื่องใหญ่ ADDZestHome ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยคุณวางแผน ออกแบบ และประเมินงบประมาณแบบชัดเจนก่อนลงมือ ที่สำคัญเรายังมีการลงสำรวจหน้างานสร้างแบบร่าง 3 มิติ ทำให้เห็นภาพรวมของงานก่อนเริ่มงานจริง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง หรือค่าใช้จ่ายที่เหนือความคาดหมายโผล่มาในภายหลัง

รับประกันงานต่อเติมทุกหลัง พร้อมบริการหลังการขายที่มั่นใจได้ ความอุ่นใจของลูกค้าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเสมอ ADDZestHome พร้อมรับประกันหลังการขาย 1 ปีตามมาตรฐาน และหากเกิดปัญหาหลังส่งมอบงานต่อเติม เรายังมีทีมบริการหลังการขายที่พร้อมดูแล ตรวจสอบ และแก้ไขให้คุณอย่างเต็มที่ เพราะเราเชื่อว่างานต่อเติมที่ดีไม่ใช่แค่เสร็จ แต่ต้องใช้งานได้ในระยะยาว จบทุกปัญหาจุกจิกครับ

การต่อเติมโรงจอดรถไม่ควรเป็นแค่การต่อเติม แต่ควรเป็นการเพิ่มคุณค่าให้บ้าน ทั้งการใช้งาน ความสวยงาม และความคุ้มค่าในการลงทุน ADDZestHome พร้อมเดินเคียงข้างคุณในทุกขั้นตอน ด้วยความเชี่ยวชาญ ความใส่ใจ และคุณภาพที่คุณสัมผัสได้ว่า “งานมาตรฐาน” ของจริงเป็นแบบไหน

ติดต่อเรา

ADDZestHome ยืนหนึ่งเรื่องงานต่อเติมทาวน์โฮม

เรายินดีให้บริการต่อเติมบ้านครบวงจรโดยทีมงานคุณภาพ ไม่มีประวัติทิ้งงาน พร้อมรับประกันผลงานหลังต่อเติม

Scroll to Top