หลายคนเมื่อมีแผนจะต่อเติมหรือปรับปรุงพื้นที่ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการต่อเติมห้องครัวหลังบ้าน ทำหลังคาโรงรถ หรือต่อเติมห้องอเนกประสงค์ มักจะเริ่มต้นด้วยโจทย์สำคัญในใจคือ “ทำอย่างไรให้ประหยัดงบมากที่สุด” ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาและเข้าใจได้ครับ เพราะค่าใช้จ่ายในการต่อเติมบ้านอาจสูงเกินกว่าที่วางแผนไว้ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกด้าน เจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยจึงเลือกวิธีควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยการมองหาช่างต่อเติมที่เสนอราคาถูกที่สุด เพราะแค่หวังว่าจะช่วยประหยัดเงินได้
แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป ในบางกรณีก็อาจได้ผลดีหากช่างที่เลือกมีฝีมือและมีจรรยาบรรณในการทำงานจริง ๆ แต่ต้องบอกก่อนครับว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอช่างที่เป็นแรร์ไอเทมแบบนั้น เพราะในความเป็นจริงคุณจะพบว่าความพยายามที่จะประหยัดนี่แหละ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในทุกเรื่อง ราคาที่ดูน่าดึงดูดในตอนแรก อาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายแฝงที่มากกว่าในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องแก้ซ้ำ แก้ซ้อน หรือแม้กระทั่งต้องรื้อทำใหม่ทั้งหมด ซึ่งสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นภาระที่มากกว่าการเลือกช่างที่ราคาเหมาะสมและมีคุณภาพตั้งแต่แรก แค่คิดก็ขนลุกกันแล้วใช่ไหมครับ บอกเลยว่าจากประสบการณ์ เรื่องนี้ทำให้เจ้าของบ้านหลายคนถึงกับปวดหัวจนน้ำตาตกมาเยอะแล้วครับ
อีกประเด็นที่หลายคนมองข้าม คือการไม่ทำข้อตกลงที่ชัดเจนหรือไม่ทำสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรกับช่าง แน่นอนว่าพบได้บ่อยในกรณีที่เลือกช่างราคาถูก เพราะช่างบางคนอาจหลีกเลี่ยงการทำสัญญาเพื่อให้ทำงานได้เร็ว หรือไม่ต้องผูกพันกับข้อตกลงใด ๆ ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านไม่สามารถเรียกร้องความรับผิดชอบได้หากเกิดปัญหา และต้องแบกรับภาระความเสียหายทั้งหมดด้วยตัวเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่หลาย ๆ โครงการต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในตอนหลัง นอกจากจะไม่ประหยัดแล้ว ยังต้องเจอกับความเครียด ความยุ่งยาก และความเสียหายที่ไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อยเลยครับ
ดังนั้นสุดท้ายแล้วการเลือกช่างต่อเติมราคาถูกโดยไม่มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบจึงเปรียบเสมือนการพนันกับคุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัว แม้ว่าจะดูเหมือนประหยัดในระยะสั้น แต่กลับต้องจ่ายแพงกว่ามากในระยะยาว เพราะไม่เพียงแต่ต้องซ่อมแซมงานซ้ำ แต่ยังต้องเสียเวลา เสียความรู้สึก และบางครั้งต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในภายหลัง การลงทุนกับช่างที่มีความเชี่ยวชาญ มีผลงานน่าเชื่อถือ และมีการทำสัญญาชัดเจนจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว ทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย และความสบายใจของผู้อยู่อาศัยเองด้วยครับ เราจึงอยากให้ทุกคนหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดคิดนี้ด้วยการรู้ก่อนจ้างช่างต่อเติมราคาถูก กับ 5 ปัญหาที่เจอบ่อยเมื่อจ้างช่างต่อเติมราคาถูก และวิธีป้องกัน ให้ปลอดภัย มั่นใจได้ กับ ADDZestHome
5 ปัญหาที่เจอบ่อยเมื่อจ้างช่างต่อเติมราคาถูก
1.ปัญหางานต่อเติมไม่ได้มาตรฐาน
หนึ่งในปัญหาที่เจอบ่อยเมื่อจ้างช่างต่อเติมราคาถูก คือ งานไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งขออธิบายก่อนครับว่าคำว่าไม่ได้มาตรฐาน ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่งานออกมาไม่สวยหรือไม่เรียบร้อยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาทางเทคนิค และโครงสร้าง ที่ส่งผลต่อความปลอดภัย การใช้งานในระยะยาวอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อช่างที่รับงานไม่มีความรู้ หรือไม่มีสถาปนิกและวิศวกรในการควบคุมงาน เลยไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสมของโครงสร้างเดิม ใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ กลายเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความเสียหายหลังงานเสร็จครับ
ตัวอย่างของปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย เช่น ผนังร้าว ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นแค่ปัญหาเล็ก ๆ แต่จริง ๆ แล้วอาจสะท้อนถึงการก่ออิฐที่ไม่ถูกวิธี ไม่มีการเสริมเหล็ก หรือไม่มีการวางระบบโครงสร้างที่รองรับแรงได้เพียงพอ โดยเฉพาะในกรณีที่ต่อเติมห้องใหม่ติดกับโครงสร้างบ้านเดิม หากไม่มีการวางคานรับน้ำหนักหรือมีรอยต่อที่ไม่ยืดหยุ่นเพียงพอ เมื่อบ้านทรุดตัวไม่เท่ากัน ก็จะเกิดรอยแตกร้าวที่ผนังอย่างเลี่ยงไม่ได้ และหากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไขก็อาจลุกลามจนกลายเป็นปัญหาด้านโครงสร้างในระยะยาว และนอกจากนั้นยังมีปัญหาอื่นอีก ดังนี้้ครับ
-
พื้นทรุด น้ำขัง
ฐานรากของบ้านเดิมมักลึกและแข็งแรง เพราะผ่านการคำนวณและตอกเสาเข็มตามมาตรฐาน แต่การต่อเติมบางครั้งใช้แค่พื้นวางบนดินหรือเสาเข็มสั้นมาก ๆ จึงเกิดการทรุดตัวได้นั่นเองครับ ซึ่งนอกจากนั้นยังเกิดจากการเทพื้นโดยไม่มีการถมดินอัดแน่นอย่างเหมาะสม หรือใช้ดินถมที่ยังใหม่และยังไม่ยุบตัวดีพอ เมื่องานเทพื้นดำเนินไปโดยไม่มีการทดสอบหรือรอระยะให้ดินเซ็ตตัวเต็มที่ พื้นที่ต่อเติมก็จะเริ่มทรุดในเวลาไม่นาน อาจเห็นได้จากการที่พื้นลานหลังบ้านเอียง น้ำขัง หรือกระเบื้องแตกร้าว ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้บ้านดูไม่สวยงามและไม่สะดวกในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาอื่น ๆ เช่น น้ำรั่วซึมเข้าฐานราก หรือเกิดโพรงใต้พื้นซึ่งเป็นอันตรายต่อโครงสร้างทั้งหมด
-
น้ำรั่วซึมตามรอยต่อ
น้ำรั่วเป็นปัญหาที่คนจำนวนมากมักเจอหลังจากต่อเติมไปได้สักพัก โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการต่อหลังคาเพิ่ม เช่น หลังคาครัว หลังคาโรงรถ หรือหลังคาระเบียงชั้นบนนั่นเองครับ สาเหตุที่พบบ่อยคือการติดตั้งหลังคาที่ไม่ถูกวิธี เช่น ความลาดเอียงของหลังคาไม่พอ รอยต่อกับผนังบ้านไม่ได้ซีลกันน้ำอย่างดี หรือใช้วัสดุกันซึมคุณภาพต่ำ พอฝนตก น้ำก็จะไหลย้อนเข้าไปในรอยต่อและซึมลงผนังหรือฝ้าเพดาน ทำให้เกิดคราบราดำ กลิ่นอับ หรือเชื้อราขึ้นในบ้าน ซึ่งไม่เพียงแค่ดูไม่น่าอยู่แต่ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะหากมีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในบ้าน ส่วนในบางกรณีอาจเกิดจากการเดินท่อไม่ดี หรือท่อน้ำทิ้งอุดตัน ทำให้น้ำล้นออกจากจุดที่ไม่ควรจะมีน้ำ ส่งผลให้พื้นเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลาจนทำให้วัสดุต่าง ๆ เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติด้วยนั่นเองครับ
-
โครงสร้างเสียหายจากการเจาะหรือดัดแปลงผิดวิธี
อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนไม่ทันระวังคือลักษณะงานที่เข้าไปทำลายโครงสร้างเดิมของบ้านโดยไม่ตั้งใจ เช่น ช่างเจาะเสาบ้านเพื่อติดตั้งท่อน้ำ หรือเจาะคานเพื่อเดินสายไฟโดยไม่รู้ว่าส่วนนั้นเป็นจุดรับน้ำหนักหลักของตัวบ้าน การเจาะแบบไม่ดูตำแหน่งอาจทำให้เสา หรือคานเกิดรอยร้าวภายใน จนกลายเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่เมื่อผ่านไปสักพักโครงสร้างจะค่อย ๆ พังลงอย่างไม่รู้ตัว บ้านอาจเริ่มเอียง เสียสมดุล หรือเกิดรอยร้าวแบบแปลก ๆ ตามผนังและเพดาน การซ่อมแซมโครงสร้างแบบนี้ต้องแก้ไขด้วยค่าใช้จ่ายสูงมาก แถมยังต้องรื้อส่วนที่ต่อเติมไปแล้วบางส่วนเพื่อลงมือแก้ไขให้ถูกจุด ซึ่งจะเสียทั้งเงินและเวลาอย่างมากครับ
-
โครงหลังคาไม่แข็งแรง
หลังคาที่ต่อเติมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาโรงรถ หรือกันสาดด้านข้างบ้าน ถ้าไม่ได้ออกแบบอย่างเหมาะสมกับสภาพอากาศและแรงลมในพื้นที่นั้น ๆ ที่เจออยู่บ่อย ๆ ก็อาจเกิดปัญหาโครงสร้างพังในอนาคตได้ โครงหลังคาที่ใช้เหล็กบางเกินไป หรือไม่ทำจุดยึดให้มั่นคง อาจทำให้หลังคาเกิดอาการสั่น โยก หรือล้มครืนเมื่อลมแรง บางครั้งถ้าเกิดเสียงดังจากโครงหลังคาในช่วงกลางคืนก็เป็นสัญญาณเตือนว่าโครงสร้างเริ่มเคลื่อนตัว นอกจากนี้ถ้าไม่มีรางน้ำ หรือการระบายน้ำฝนที่ดี น้ำฝนจะไหลย้อนกลับเข้าบ้าน หรือหยดใส่ผนัง ทำให้เกิดปัญหาน้ำซึม และเชื้อราในระยะยาวอีกด้วย
-
ต่อเติมแบบไม่คำนึงถึงผิดกฎหมาย
หลายคนต่อเติมบ้านโดยไม่ได้ตรวจสอบกฎหมายข้อบังคับ โดนเฉพาะที่เจอได้บ่อยคือการทำห้องติดรั้วเพื่อนบ้าน ต่อหลังคายื่นออกนอกรั้วบ้าน หรือต่อเติมแบบปิดล้อมที่ทำให้แสงหรือลมเข้าไปยังบ้านข้างเคียงได้น้อยลง กรณีแบบนี้มักสร้างปัญหาความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน และมีโอกาสถูกร้องเรียนไปยังเทศบาลหรือสำนักงานเขต ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจเข้ามาตรวจสอบและออกหนังสือให้รื้อถอนแน่ ๆ ครับ นอกจากนี้หากบ้านต่อเติมผิดแบบที่เคยขออนุญาตไว้ ยังอาจมีปัญหาเวลาต้องการขายบ้าน หรือขอกู้เงินกับธนาคาร เพราะบ้านไม่ตรงกับแบบแปลนที่อนุญาตไว้ในเอกสาร สิ่งเหล่านี้แม้ดูเหมือนไกลตัวแต่เมื่อเกิดขึ้นจริงจะสร้างปัญหาใหญ่และแก้ยากมาก
เพราะฉะนั้นหากต้องการให้การต่อเติมบ้านเป็นไปอย่างปลอดภัย ได้มาตรฐาน และใช้งานได้ดีในระยะยาวเจ้าของบ้านจึงควรใส่ใจในคุณภาพของงานมากกว่าการเน้นราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะความเสียหายที่เกิดจากงานไม่ได้มาตรฐานนั้น มักจะไม่จบแค่รอยร้าวหรือพื้นที่ทรุดตัว แต่สามารถลุกลามไปถึงโครงสร้างหลัก และทำให้บ้านทั้งหลังมีปัญหาในอนาคตได้เช่นกันครับ
2.ใช้วัสดุคุณภาพต่ำกว่าที่ตกลง
อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนมักเจอจากงานต่อเติม คือ การใช้วัสดุที่คุณภาพต่ำกว่าที่ตกลงไว้ อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในตอนแรก แต่สามารถส่งผลเสียต่อคุณภาพงานและอายุการใช้งานได้มากกว่าที่คิด ทั้งด้านโครงสร้าง ความสวยงาม และความทนทานในระยะยาวของบ้าน บางครั้งตอนตกลงกันเจ้าของบ้านอาจคิดว่าเลือกวัสดุระดับกลางที่มีมาตรฐาน เช่น เหล็กขนาด 6 มม. มีการใช้กระเบื้องเกรด A ใช้ปูนกันชื้น หรือสายไฟชนิดทนความร้อน แต่พอถึงเวลาทำงานจริงช่างอาจเปลี่ยนไปใช้ของที่ราคาถูกลง เช่น เหล็กขนาดเล็กลงเล็กน้อย กระเบื้องเกรดรอง หรือแม้แต่สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งถ้าไม่สังเกตหรือตรวจสอบอย่างละเอียด ก็จะไม่รู้เลยว่าวัสดุที่นำมาใช้นั้นไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้
ช่างบางรายอาจทำเพื่อประหยัดต้นทุนของตัวเอง หรือเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าของบ้านอยากประหยัดจึงลดสเปควัสดุโดยไม่แจ้งให้ทราบกลายเป็นการหวังดีประสงค์ร้ายเลยนะครับ การใช้วัสดุราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานนี้มีความเสี่ยงมากกว่าที่เราคิดเยอะครับ ขอยกตัวอย่างคร่าว ๆ ให้เข้าใจง่ายนะครับ
- เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน หรือพวกเหล็กเส้นที่ไม่ผ่าน มอก. ส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง เสี่ยงต่อการแตกร้าวหรือพังทลาย
- กระเบื้องเกรดต่ำ อาจมีสีไม่สม่ำเสมอ ผิวหน้าไม่เรียบไม่ทนทาน ดูดซึมน้ำมาก ทำให้หลุดล่อนได้ง่าย หรือแตกร้าวเมื่อใช้งาน
- ปูนหรือสีไม่กันชื้น เมื่อใช้ในห้องน้ำหรือผนังภายนอก อาจเกิดปัญหาน้ำซึม สีลอก หรือเกิดเชื้อราบริเวณผนังอย่างรวดเร็ว
- สายไฟคุณภาพต่ำ มีโอกาสละลายเมื่อใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น หรือเตาไฟฟ้า ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ได้ง่าย เสี่ยงไฟไหม้บ้าน
นอกจากนี้ในบางกรณีที่ดวงไม่ดีไปเจอรุ่นซีเคร็ท ช่างอาจไม่ใช้วัสดุที่ตกลงไว้เลยก็เป็นได้ครับ เช่น ตกลงว่าจะใช้ปูนยี่ห้อดัง แต่พอถึงหน้างานกลับไม่มีถุงปูนที่ตกลงกันไว้แม้แต่ถุงเดียว ซึ่งหากเจ้าของบ้านไม่เข้าตรวจงานระหว่างทาง ก็จะไม่มีทางรู้เลยว่างานที่เสร็จไปนั้นใช้วัสดุคุณภาพแบบไหน
เพราะผลกระทบของการใช้วัสดุคุณภาพต่ำไม่ใช่แค่ความสวยงามเท่านั้น แต่รวมถึงอายุการใช้งานที่สั้นลงอย่างมาก ต้องซ่อมบ่อย เสียเงินซ้ำซ้อน และอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินในระยะยาว เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร โครงสร้างพัง น้ำรั่วผนังชื้น หรือฝ้าถล่ม ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ควรขอใบเสนอราคาพร้อมสเปควัสดุอย่างชัดเจน หรือควรทำ BOQ ก่อนเริ่มงาน และหมั่นเข้าไปตรวจดูวัสดุที่ใช้ในหน้างานจริง หากช่างบอกว่าเปลี่ยนวัสดุจากที่ตกลงไว้ ควรขอเหตุผล และขอดูวัสดุจริงก่อนใช้งานเสมอทุกครั้งด้วยนะครับ
3. ส่งงานล่าช้าหรือไม่ตรงตามกำหนด
อีกหนึ่งปัญหาที่เจอบ่อยเมื่อจ้างช่างต่อเติมราคาถูก ที่เจอบ่อยไม่แพ้กัน คือ การที่ช่างส่งงานล่าช้าหรือไม่สามารถทำงานตามกำหนดเวลา ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และส่งผลกระทบทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่าที่คาดไว้ เพราะเมื่อตกลงกับช่างเรื่องระยะเวลาในการส่งมอบงานแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เราทุกคนคาดหวังคือการที่งานจะเสร็จตรงตามกำหนดเวลา เพื่อให้คุณสามารถกลับมาใช้พื้นที่นั้นได้อย่างเต็มที่ตามที่วางแผนไว้ แต่หลายครั้งที่เกิดปัญหาคือ งานเสร็จล่าช้า และบางกรณีอาจล่าช้าไปหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนเลยทีเดียวครับ ตัวอย่างของปัญหานี้อาจมีหลายสาเหตุ ได้แก่
- ขาดการวางแผนงานที่ดี ปัญหาการจัดการงานของช่างที่ในบางครั้งช่างที่รับงานหลายที่อาจไม่สามารถบริหารเวลาของตัวเองได้ดี ทำให้ตารางงานของเขามีการทับซ้อนหรือขัดแย้งกัน การรับงานมากเกินไปโดยไม่ได้จัดการให้ดี อาจทำให้มาเริ่มงานที่บ้านของคุณล่าช้า ทำให้วันส่งมอบงานต้องถูกเลื่อนออกไป
- ขาดแรงงานหรืออุปกรณ์ บางครั้งช่างอาจเจอปัญหาทีมงานไม่พร้อม หรือขาดอุปกรณ์ในการทำงานเนื่องจากมีการขอแรงงานจากแหล่งอื่น ๆ หรือสั่งซื้อวัสดุที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งทำให้ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ตามแผนที่ตกลงกันไว้ และการที่ช่างบางคนไม่มีประสบการณ์ ทำให้การทำงานช้ากว่า กำหนดการได้ครับ
- ปัญหาฝนตกหรือสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะในงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างหรือการทาสี บางครั้งสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ฝนตก หรืออากาศร้อนจัด อาจทำให้การทำงานไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ทำให้ต้องหยุดงานและล่าช้าออกไป
- ปัญหาการจัดหาวัสดุ บางครั้งวัสดุที่สั่งซื้อไว้เพื่อใช้ในงานต่อเติมอาจไม่พร้อมใช้งานหรือจัดส่งล่าช้า ซึ่งส่งผลให้การทำงานต้องหยุดชะงักไปโดยไม่มีทางเลือก
ผลกระทบจากการส่งงานล่าช้ายังทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านที่ต้องเลื่อนออกไป หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแผนงาน การล่าช้าอาจทำให้ต้องเสียเวลารอนานขึ้นในการวางแผนกิจกรรมอื่น ๆ หรือการย้ายเข้าอยู่ในบ้านหลังการต่อเติมเสร็จ
แย่ไปกว่านั้นถ้าช่างไม่สามารถทำงานเสร็จตามกำหนดและไม่ได้แจ้งล่วงหน้าอย่างชัดเจน อาจมีปัญหาทางกฎหมายหรือเรียกร้องค่าเสียหายได้ อันนี้เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา ค่อนข้างน่าปวดหัวสุด ๆ ไปเลยครับ ซึ่งหากมีการทำสัญญาหรือข้อตกลงไว้ตั้งแต่แรก อาจต้องมีการกำหนดระยะเวลาการส่งมอบงานที่แน่นอน และมีการตรวจสอบหน้างานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับความชัดเจนและมั่นใจว่าการทำงานจะเสร็จตรงเวลา
4. ค่าใช้จ่ายบานปลาย ไม่มีการควบคุมงบประมาณ
อันนี้เป็นปัญหาที่ใครได้ยินก็ต้องขนลุกครับ ค่าใช้จ่ายบานปลายกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการควบคุมงบประมาณอย่างจริงจัง หรือไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นกับช่างรับเหมา ซึ่งเรื่องนี้อาจดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาโครงสร้างโดยตรง แต่อาจจะส่งผลกระทบแบบเต็ม ๆ ต่อสถานะการเงิน และกลายเป็นความเครียดระยะยาวได้เลยครับ ตอนเริ่มต้นคุยกับช่าง เราอาจได้รับใบเสนอราคาหยาบ ๆ หรือแค่บอกปากเปล่า ว่าจะใช้เงินไม่เกินเท่าไหร่ แต่ไม่มีการเขียนรายละเอียดที่ชัดเจนว่า ราคานี้รวมอะไรบ้าง เช่น ค่าแรงเท่าไหร่ วัสดุชนิดใดบ้างที่รวมอยู่ หรือมีงานไหนที่ยังไม่รวม เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ งานฝ้า งานสี แต่พอเริ่มทำงานไปได้สักพัก ช่างก็อาจเริ่มแจ้งว่าต้อง เพิ่มนั่น เพิ่มนี่ ซึ่งอันนี้ค่อนข้างน่ากลัวเลยครับ เพราะสุดท้ายถ้าเราไม่ยอมจ่ายงานก็ไม่เดินอยู่ดีใช่ไหมล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ตกลงกันไว้หมด จึงต้องใช้วัสดุที่ราคาสูงขึ้น หรืองานบางอย่างที่ช่างไม่ได้คำนวณไว้ตั้งแต่แรก เช่น งานรื้อถอนพื้นเก่า งานเดินสายไฟ งานย้ายท่อ หรือหากเป็นเราเองที่ปลี่ยนใจระหว่างดำเนินงาน เช่น อยากเปลี่ยนแบบกระเบื้อง หรือเพิ่มปลั๊กไฟ
ถ้าไปเจอช่างหัวหมอที่ไม่ได้มีการวางแผนอย่างรอบคอบตั้งแต่ต้น ทำให้สิ่งที่ดูเหมือนจะควบคุมงบได้กลับกลายเป็นเงินที่ไหลออกไม่หยุด หลายคนเจอปัญหาว่าเริ่มจากงบประมาณ 200,000 บาท สุดท้ายจ่ายจริงเกือบ 300,000 หรือเกินครึ่งล้านก็มีครับ เมื่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวอาจทำให้เจ้าของบ้านต้องเร่งหาเงินเพิ่มกลางคัน หรือบางคนอาจต้องหยุดงานก่อสร้างไว้กลางทางเพราะเงินหมด ทำให้บ้านกลายเป็นไซต์งานร้างอยู่หลายเดือน เป็นการเสียเวลาโดยไม่จำเป็นเลยครับ
5. ขาดการรับประกันหลังส่งมอบงาน
มีจำนวนไม่น้อยเลยครับที่หลังจากงานต่อเติมเสร็จไปแล้วก็คือ ไม่มีการรับประกันผลงาน หรือแม้มีก็ไม่มีหลักประกันที่ชัดเจนว่าช่างจะกลับมาแก้ไขงานที่มีปัญหาให้จริง หลายครั้งเมื่องานเริ่มมีปัญหา เช่น ผนังร้าว น้ำรั่ว พื้นยุบ หรือสีลอก เจ้าของบ้านพยายามติดต่อช่างที่ทำงานให้ แต่กลับเจอสถานการณ์ที่ติดต่อไม่ได้ ปัดความรับผิดชอบ หรืออ้างว่าไม่ใช่ความผิดของเขา โดยเฉพาะในกรณีที่ช่างรับงานราคาถูก ไม่มีสัญญารับประกัน ไม่มีใบเสร็จ ไม่มีบันทึกตกลงชัดเจนใด ๆ เลย
ซึ่งในความเป็นจริงงานต่อเติมเป็นงานที่มีโอกาสเกิดปัญหาหลังงานต่อเติมเสร็จสูงมากครับ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร เพราะวัสดุที่ใช้ต้องเจอสภาพอากาศ การใช้งานจริง และการทรุดตัวตามธรรมชาติของพื้นที่ เช่น หลังคาที่ต่อเติมใหม่อาจเริ่มรั่วเมื่อลมแรงหรือฝนตกหนัก หรือโครงหลังคาอาจเริ่มมีเสียงดังเพราะยึดไม่แน่นพอ แต่ทั้งนี้ปัญหาเหล่านี้ไม่ควรเป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านต้องแบกรับเอง เพราะตามหลักการทั่วไปช่างที่รับงานควรมีการรับประกันผลงานอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี ตามแต่ลักษณะของงาน เพื่อให้เจ้าของบ้านมั่นใจว่าหากเกิดปัญหาในภายหลัง ช่างจะกลับมาแก้ไขโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และเพื่อแสดงความรับผิดชอบในผลงานของตนเอง แต่ในความเป็นจริง โดยเฉพาะกับช่างรายย่อยหรือช่างที่รับงานราคาถูก จะไม่มีระบบการรับประกันที่เป็นทางการเลยครับ เมื่อเกิดปัญหาเจ้าของบ้านจึงมักตกอยู่ในสถานะผู้ประสบภัยที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องจ้างช่างใหม่มาซ่อมงานเดิม ซึ่งเท่ากับต้องเสียเงินซ้ำซ้อน และที่สำคัญคือ งานเดิมอาจรื้อยากหรือไม่สามารถซ่อมแบบเรียบร้อยได้แล้ว
ทางแก้คือเจ้าของบ้านควรมีการระบุเงื่อนไขการรับประกันผลงานในสัญญาว่าจ้างอย่างชัดเจน ว่ารับประกันงานโครงสร้าง 1 ปี งานหลังคา 6 เดือน หรือระบบไฟประปาอย่างน้อย 3 เดือน พร้อมระบุว่าในช่วงรับประกัน หากเกิดปัญหาจากความบกพร่องของช่าง จะต้องเข้ามาแก้ไขโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และควรมีข้อมูลติดต่อช่างที่สามารถติดตามได้จริง เช่น สำเนาบัตรประชาชน ที่อยู่ชัดเจน หรือช่องทางติดต่อมากกว่า 1 ช่องทาง เพราะสิ่งที่อยากเตือนคือไม่อยากให้มองข้ามเรื่องการรับประกันเลยครับ แม้จะไม่ได้ใช้ในทันที แต่เมื่อเกิดปัญหา มันคือสิ่งที่จะบอกได้ว่าคุณจ้างช่างที่มีความเป็นมืออาชีพ หรือแค่ช่างที่รับงานแล้วหนีความรับผิดชอบเท่านั้นเองครับ
ทำไมต้องเลือกต่อเติมกับ ADDZestHome?
เพราะการต่อเติมบ้านไม่ใช่แค่การเพิ่มพื้นที่ใช้สอย แต่คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวอย่างแท้จริงครับ ดังนั้นการเลือกทีมช่างที่ “ไว้ใจได้จริง” จึงเป็นสิ่งสำคัญ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเจ้าของบ้านจำนวนมากจึงเลือกใช้บริการของ ADDZestHome
ADDZestHome เราให้บริการงานต่อเติมด้วยมาตรฐานที่สูงในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ วางแผนงบประมาณ ไปจนถึงการก่อสร้างจริง ด้วยทีมช่างมืออาชีพที่ผ่านประสบการณ์ตรง ทีมมีความรู้เฉพาะทางในงานต่อเติมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานต่อเติมห้องครัว โรงจอดรถ ห้องอเนกประสงค์หรือพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมในบ้าน ทีมของเราทำงานอย่างมีระบบ ใช้วัสดุคุณภาพตามที่ตกลงไว้ ไม่มีการลดสเปค แต่ไม่ทำให้งบประมาณบานปลาย และใส่ใจในรายละเอียดของงานจนลูกค้ารู้สึกได้ตั้งแต่วันเริ่มงานวันแรก
เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานต่อเติมบ้านครบวงจร ด้วยทีมงานมืออาชีพและช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลทุกขั้นตอนเพื่อให้บ้านของคุณตอบโจทย์การใช้งานและความสวยงาม มีประสบการณ์ต่อเติมบ้านครบวงจรในประเทศไทยเรายินดีให้บริการงานต่อเติมบ้านสำหรับบ้านทุกแบบ ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ด้วยประสบการณ์ต่อเติมบ้านกว่า 300 หลัง ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมส่งมอบงานคุณภาพ
ที่สำคัญเราเข้าใจว่าความมั่นใจของเจ้าของบ้านคือหัวใจของงานทุกโปรเจกต์ ADDZestHome จึงมีการรับประกันผลงานหลังจบงาน 1 ปี พร้อมดูแลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ไม่ทอดทิ้งลูกค้า และไม่ปล่อยให้คุณต้องแก้ไขปัญหาคนเดียว หมดกังวลกับปัญหาช่างทิ้งงาน อัปเดตงานทุกระยะการต่อเติม เจ้าของบ้านสามารถดูความคืบหน้างานได้ผ่านทางไลน์ พร้อมจบทุกปัญหาจุกจิก งบไม่บานปลาย ได้งานตรงปก เพื่อขอบคุณและตอบแทนที่ให้โอกาสเราต่อเติมบ้านในฝันของคุณให้เป็นจริงครับ
หากคุณกำลังจะต่อเติมบ้าน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มตรงไหนดี หรืออยากได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้จริง ติดต่อ ADDZestHome เพื่อขอคำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ แล้วคุณจะเข้าใจว่าความต่างของ “งานมาตรฐาน” เป็นอย่างไร