ทำความรู้จักวัสดุที่ควรใช้ในห้องครัว เลือกแบบไหนดีให้ทนทานใช้ได้นาน

ทำความรู้จักวัสดุที่ควรใช้ในห้องครัว เลือกแบบไหนดีให้ทนทานใช้ได้นาน

ถ้าพูดถึงการตกแต่งห้องครัวหรือการเลือกวัสดุที่ใช้ในห้องครัวการเลือกใช้วัสดุและการตกแต่งบ่งบอกถึงความใส่ใจของเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน และยังสะท้อนถึงรสนิยมและความใส่ใจในทุกรายละเอียด ห้องครัวจึงเป็นดั่งนามบัตรที่บ่งบอกตัวตน เป็นหน้าตาสำคัญของบ้านที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน ซึ่งถ้าจะพูดถึงวัสดุในห้องครัว มันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังต้องคิดถึงความทนทานและการดูแลรักษาด้วยครับ เพราะห้องครัวเป็นพื้นที่ที่ใช้บ่อยที่สุด และบางบ้านอาจใช้งานหนักตลอดเวลา เจอทั้งความร้อน คราบอาหาร คราบน้ำมัน และการทำความสะอาดทุกวัน ดังนั้นวัสดุที่เลือกใช้ต้องทั้งทนทาน ปลอดภัย ดูแลรักษาง่าย จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับคราบสะสม หรือมานั่งกังวลเรื่องการดูแลรักษา

ถ้าเลือกวัสดุผิดสเปค ไม่ตรงกับการใช้งาน หรือไม่ทนทานพอ บางทีอาจจะทำให้เราต้องเสียเวลาซ่อมแซมหรือทำความสะอาดบ่อย ๆ ก็ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง หรือเคาน์เตอร์ครัวควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานหนักได้ดี ทั้งความร้อน รอยขีดข่วน และความชื้น แต่ในขณะเดียวกัน ต้องไม่ละเลยความสวยงามที่จะยกระดับให้ห้องครัวดูมีเสน่ห์และน่าใช้งาน การผสมผสานทั้งฟังก์ชันและความงามจึงเป็นหัวใจหลักในการเลือกเคาน์เตอร์ที่ตอบโจทย์ครับ

โชคดีที่ปัจจุบันเรามีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ซึ่งอาจเยอะจนหลายคนเลือกไม่ถูกเลยใช่ไหมครับ แน่นอนว่าวัสดุที่ใช้ในห้องครัวมีหลายชนิด ทั้งกระเบื้อง หินแกรนิต สแตนเลส หรือแม้แต่ไม้สังเคราะห์ แต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สไตล์ความชอบส่วนตัว ดังนั้น “ADDZestHome” จะพามาทำความรู้จักวัสดุที่ควรใช้ในห้องครัว ว่าควรเลือกแบบไหนดีให้ทนทานใช้ได้นาน ให้ตอบโจทย์การใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุดในระยะยาวครับ 

ทำความรู้จักวัสดุที่ควรใช้ในห้องครัว

เวลาเราพูดถึง “ห้องครัว” หลายคนอาจจะนึกถึงแค่เรื่องอุปกรณ์ทำอาหาร หรือเมนูเด็ด ๆ ที่จะทำกินกัน แต่จริง ๆ แล้วอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ วัสดุที่เราเลือกใช้ในห้องครัว ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ ท็อป โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เก็บของ ผนังกันเปื้อน อ่างล้างจาน หรือแม้แต่เครื่องดูดควัน เพราะวัสดุเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวกับความทนทาน การดูแลรักษา ความปลอดภัย และสุขอนามัยอีกด้วยนั่นเองครับ ดังนั้นเลยอยากชวนมาทำความรู้จักกับวัสดุต่าง ๆ ในห้องครัว เพื่อเป็นไอเดียสำหรับ ผู้ที่กำลังวางแผนต่อเติมห้องครัวใหม่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้งานจริง การเลือกวัสดุที่ใช่ไม่เพียงเติมเต็มความงาม แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานที่จะอยู่กับคุณไปอีกนานครับ

ท็อปเคาน์เตอร์ครัว

ท็อปเคาน์เตอร์ครัว ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ จริงๆ แล้วก็คือ พื้นผิวด้านบนของเคาน์เตอร์ครัวนั่นเองครับ เป็นส่วนที่เราใช้งานบ่อยสุด ทั้งเตรียมอาหาร วางของ ทำกับข้าว หรือแม้แต่สายขนมก็อาจใช้พื้นที่นี้สำหรับนวดแป้ง การเลือกวัสดุที่ใช้ทำท็อปเคาน์เตอร์ครัวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยต้องคำนึงถึงทั้งความสวยงาม ความทนทานต่อการใช้งานหนัก ความง่ายในการทำความสะอาด และที่สำคัญ ต้องเหมาะกับรูปแบบการใช้งานจริงของแต่ละครอบครัว

การเลือกท็อปเคาน์เตอร์ครัวไม่ได้มีสูตรตายตัวครับ อันนี้จะขึ้นอยู่กับงบประมาณ สไตล์ที่ชอบ และการใช้งานในชีวิตประจำวัน มาดูกันว่าวัสดุที่นิยมใช้ทำ Top ครัวมีอะไรบ้าง

  • ลามิเนต ตัวท็อปของวงการท็อปเคาน์เตอร์ครัว เป็นวัสดุพลาสติก ราคาย่อมเยา ลวดลายเยอะ น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย แต่ข้อเสียคือไม่ทนความร้อน ถ้าโดนน้ำบ่อยอาจบวมหรือหลุดลอก เหมาะกับคนงบน้อย ใช้งานครัวเบา ๆ หรือเน้นสวยงามมากกว่าลุยหนัก
  • กระเบื้อง วัสดุที่เหมาะกับเคาน์เตอร์ก่ออิฐแบบครัวไทย หาวัสดุและลวดลายได้ง่าย กันความร้อนได้ดี ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียคือพื้นผิวไม่เรียบต่อเนื่องเพราะร่องยาแนว อาจเป็นคราบสะสม และแตกง่ายถ้ามีการกระแทกแรง ๆ เหมาะกับคนที่ชอบ DIY หรือแต่งบ้านสไตล์วินเทจ มีงบจำกัดแต่เน้นใช้งานจริง
  • หินแกรนิต ลวดลายของหินจะมีความใกล้เคียงกันทั้งแผ่น สวยงาม คงทนสูงมาก ทนทานต่อการขีดข่วน และความร้อน ให้ความสวยหรูดูแพงไม่แพ้ตัวอื่น แต่ต้องใช้โครงสร้างที่รับน้ำหนักได้ดี เหมาะกับครัวที่ใช้งานหนัก ทำอาหารจริงจัง เน้นความคงทนระยะยาว
  • หินสังเคราะห์หรือหินเทียม วัสดุผิวเรียบเนียน ไร้รอยต่อแนบสนิทไม่มีรูพรุน ทำให้ดูแลความสะอาดง่าย ทนคราบ ทนน้ำ ทนรอยขีดข่วน ซ่อมแซมได้ถ้าเกิดรอย เหมาะกับคนที่ชอบความเรียบหรู ดูมินิมอล ดูแลรักษาง่ายใช้งานบ่อย

ตู้เก็บของด้านบนหรือด้านล่าง

การเลือกตู้เก็บของในครัวว่าจะเน้นด้านบนหรือด้านล่าง ที่หลายคนมักจะลังเล เพราะแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอย ความถนัด และสไตล์ครัวของแต่ละบ้าน ดังนั้นอันดับแรกต้องมาดูกันก่อนครับ ว่าคนที่ใช้ครัวมากที่สุดมีส่วนสูงเท่าไหร่ ขนาดของครัวเท่าไหร่ การใช้งานหนักหรือเบา 

  • ตู้เก็บของด้านล่าง วางของเข้าออกง่าย ไม่ต้องยกแขนสูง ถ้าไม่ได้ติดตู้บนก็จะทำให้ครัวดูโล่งด้านบน จุของหนัก ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะ หรือแม้แต่เครื่องครัวชิ้นใหญ่ 

ส่วนข้อเสียของตู้ด้านล่าง ถ้าดีไซน์ไม่ดีจนระบายความชื้นไม่ทัน อาจเกิดเชื้อราได้ และถ้าไม่มีลิ้นชัก อาจเอื้อมหยิบของด้านในสุดได้ยาก ต้องก้ม ๆ เงย ๆ เวลาหาของลึก ๆ ในตู้

  • ตู้เก็บของด้านบน ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในครัวที่มีขนาดเล็ก ดูเป็นระเบียบถ้าออกแบบดี ทำให้ประหยัดพื้นที่ด้านล่าง ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น แนะนำไว้ใช้เป็นพื้นที่สำหรับวางของเล็ก ๆ น้ำหนักเบาอย่างแก้ว ชาม หรือเครื่องปรุง

สำหรับข้อเสียคือ ถ้าติดตู้สูงไป อาจใช้งานจริงไม่สะดวก คนตัวเตี้ยอาจหยิบของลำบาก ถ้าเลือกแบบไม่มีบานตู้อาจดูรกได้ครับ

มาถึงตรงนี้แล้วคงตั้งคำถามว่าควรเลือกแบบไหนดีใช่ไหมครับ งั้นมาดูกันว่าต้องพิจารณาจากอะไรบ้างครับ โดยจะขอแบ่งออกเป็น 3 ปัจจัยหลักดังนี้ 

  • ขนาดของครัว ถ้าครัวเล็กสามารถใช้ทั้งบนและล่างให้คุ้ม ซึ่งการจัดพื้นที่แนวตั้งช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้เยอะครับ แต่ครัวกว้าง มีพื้นที่เหลือ ๆ ก็อาจเน้นตู้ล่าง แล้วเปิดโล่งด้านบนให้ดูโปร่งก็จะดูโล่งสบายไปอีกแบบครับ 
  • การใช้งาน ถ้าใช้งานหนัก มีของเยอะก็ควรมีตู้ล่าง และอาจต้องเสริมชั้นหรือลิ้นชักเพิ่มด้วย  ถ้าใช้งานเบาตู้บนอาจแค่ไว้ใช้เก็บของเล็ก ๆ เบา ๆ
  • สไตล์ที่ชอบ อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบของเจ้าของบ้านเลยครับ ใครที่ชอบแบบมินิมอล โคซี่ หรือแนวลอฟท์ก็อาจเลือกไม่มีตู้บนเลย ใช้ชั้นโปร่งหรือแขวนของแทน แต่ใครชอบสไตล์โมเดิร์นหรือคลาสสิกก็อาจจัดทั้งตู้บน ตู้ล่างครบเซ็ตให้เข้าชุดกันเลยก็ได้ครับ 

ผนังกันเปื้อน (Backsplash)

Backsplash หรือ “ผนังกันเปื้อน” คือพื้นที่ผนังส่วนที่อยู่ ระหว่างเคาน์เตอร์ครัวกับตู้แขวนด้านบน ซึ่งเป็นจุดที่มักจะเปื้อนง่ายเวลาเราทำอาหาร เช่น น้ำมันกระเด็น น้ำซุปกระฉอก หรือเศษอาหารกระเด็นใส่ มีไว้เพื่อป้องกันผนังไม่ให้เลอะหรือเสียหาย และให้ทำความสะอาดง่าย ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมาทำ มีดังนี้

  • กระเบื้อง ที่มีลวดลายให้เลือกเยอะ ทนความร้อน กันน้ำดี ทำความสะอาดง่าย แต่อาจติดตรงร่องยาแนวนิดนึงครับ จุดนี้จะเป็นคราบง่าย ต้องทำความสะอาดบ่อย
  • กระจก วัสดุที่รู้กันดีว่าทำให้ดูเรียบหรู ทันสมัย เช็ดคราบง่ายมาก สะท้อนแสง ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ต้องติดตั้งระวัง เพราะแตกง่ายถ้าใช้กระจกธรรมดา เหมาะกับครัวที่อยากได้ความโปร่งโล่ง
  • หิน เหมาะกับครัวที่เน้นหรูหรา ใช้งานหนัก และมีงบเยอะหน่อยเพราะราคาค่อนข้างตึงเลยครับ แต่จะได้ความหรูหรา ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ถ้าทำแผ่นใหญ่ก็จะไร้รอยต่อ 
  • สแตนเลส สำหรับเหล่าแม่ครัวหัวป่า เป็นครัวสายลุย ครัวอุตสาหกรรม หรือบ้านที่ทำอาหารบ่อยแบบครัวร้านอาหาร ซึ่งทนความร้อน คราบมัน เชื้อรา ทำความสะอาดง่าย แต่อาจดูดิบ ๆ ไม่เหมาะกับบ้านสไตล์อบอุ่น
  • ลามิเนต หรือไม้อัดเคลือบผิว สำหรับครัวที่ใช้งานเบา ๆ หรือสายแต่งบ้านงบน้อยแต่ขอสวยไว้ก่อน ซึ่งเป็นวัสดุที่น้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา แต่ทนความร้อนได้ไม่ดีเท่าไหร่ 

เคาน์เตอร์ครัว

โครงสร้างเคาน์เตอร์ครัว หัวใจของความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักทั้งหมดของเคาน์เตอร์ เป็นเหมือนกระดูกของครัว มีให้เลือกอยู่ 3 แบบหลัก คือ

  • โครงปูน มักก่อด้วยอิฐฉาบปูน หรืออิฐมวลเบา แข็งแรงถาวร ทนสุด ๆ เหมาะกับครัวไทย ครัวหนัก ครัวที่ทำอาหารบ่อย
  • โครงสำเร็จรูป อาจสั่งทำจากช่างเฟอร์นิเจอร์ มีให้เลือกทั้งไม้จริง ปาติเกิล (Particle board) หรือ MDF ซึ่ง ดีไซน์สวย ปรับฟังก์ชันได้เยอะ ติดตั้งง่าย เหมาะกับครัวฝรั่ง ครัวที่ทำอาหารไม่หนัก แต่เน้นดีไซน์
  • โครงเหล็ก ซึ่งจะทำจากเหล็กกล่อง หรือสแตนเลส มักหุ้มด้วยวัสดุปิดผิว เช่น ลามิเนต หรือ HPL เหมาะกับครัวลุย ๆ ที่ยังอยากได้ดีไซน์สวยและแข็งแรง แต่อาจมีเสียงดังเวลาใช้งาน ถ้าโครงบางเกินไป 

เตาแก๊ส & เตาไฟฟ้า (Hob)

เปรียบเทียบกันชัดๆ ระหว่างแบบ Hot Plate แบบ Ceramic แบบ Induction และแบบเตาแก๊ส

  • เตาไฟฟ้าแบบแผ่นเหล็ก (Hot Plate)  รุ่นคลาสสิกสุด ใช้ขดลวดความร้อนซ่อนอยู่ใต้แผ่นเหล็ก ใช้กับภาชนะได้เกือบทุกชนิด เหมาะกับคนงบน้อย ใช้งานเบาๆ เช่น ต้มอุ่นอาหาร
  • เตาไฟฟ้าเซรามิก (Ceramic Hob) ดีไซน์สวย หน้าตาเรียบหรู ทำความสะอาดง่าย ใช้ขดลวดใต้กระจกเซรามิกทนความร้อน เหมาะกับคนทำอาหารเบา ๆ
  • เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) เทคโนโลยีความร้อนที่ใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้า เตาไม่ร้อน แต่หม้อร้อน! ร้อนเร็วสุด ประหยัดไฟสุด ทำความสะอาดง่าย เพราะผิวเตาไม่ไหม้ แต่ใช้ได้เฉพาะหม้อหรือกระทะที่มีแม่เหล็กดูดติด อย่างสแตนเลส และเหล็ก
  • เตาแก๊ส (Gas Hob) อันนี้นิยมที่สุดครับ เป็นเตาที่ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เหมาะกับคนทำอาหารบ่อย ใช้งานครัวหนัก ยังทำงานได้แม้ไฟฟ้าดับ 

เครื่องดูดควัน (Hood)

คำถามนี้ตอบแล้วหลายคนถึงกับร้องอ๋อเลย เพราะเครื่องดูดควัน (Hood) คือสิ่งที่หลายบ้านมองข้ามตอนแรก แล้วมานั่งเสียดายทีหลัง ต้องเน้นย้ำว่าเครื่องดูดควันเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำอาหารจริงจัง หากขาดสิ่งนี้ไป กลิ่นอาหารจะแพร่กระจายไปทั่วบ้าน คราบน้ำมันจะเกาะตามผนังและเพดาน รวมถึงอาจทำให้พัดลม เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ การลงทุนติดตั้งเครื่องดูดควันจึงเป็นการป้องกันปัญหาที่คุ้มค่าในระยะยาวอย่างแน่นอนครับ โดยหลัก ๆ เครื่องดูดควันจะแบ่งออก 4 ประเภทใหญ่ ๆ ตามการติดตั้งให้เลือกดังนี้

  • แบบมาตรฐาน ดีไซน์เรียบ พลังดูดปานกลาง เหมาะกับครัวขนาดเล็ก ติดใต้ตู้ลอย หรือติดผนัง จะมีระบบดูดอากาศ 2 แบบ คือ
    • แบบระบบท่อ (ducting) ดูดควันออกนอกบ้านโดยตรง ดูดได้แรง แต่ต้องวางแผนทำท่อระบายตอนออกแบบครัว
    • แบบระบบหมุนเวียนภายใน (recycle) พลังดูดอาจไม่แรงเท่าแบบมีท่อเหมาะกับคอนโดหรือบ้านที่ไม่สามารถเจาะผนังได้ มีแผ่นกรองกลิ่นควัน แล้วปล่อยลมกลับออกมาในห้อง
  • แบบกระโจมติดผนัง (Chimney Hood) ทรงสูง มีปล่องดูดขึ้นตรง ๆ เหมือนปล่องควัน เหมาะกับครัวฝรั่ง หรือครัวเปิดสมัยใหม่
  • แบบกระโจมกลางห้อง (Island Hood) สำหรับครัวแบบ island โดยแขวนมาจากเพดานห้องครัว ให้ความหรูหรากว่าแบบทั่วไป 
  • แบบ slim line (Slim Line) จะเป็นระบบหมุนเวียนภายใน เป็นแบบลิ้นชักสามารถเปิดปิดได้ เหมาะสำหรับคอนโด อพาร์ทเมนท์ที่มีพื้นที่จำกัด

อ่างล้างจาน (Sink)

จุดที่เราใช้ทุกวันบ่อยมาก ทั้งล้างจาน ล้างผัก ล้างมือ ล้างทุกอย่าง ดังนั้นการเลือกอ่างล้างจานที่เหมาะทั้งในเรื่องวัสดุ รูปแบบ และการติดตั้ง จะช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้นเยอะ แถมยังทำให้ครัวดูดีขึ้นด้วย วัสดุของอ่างล้างจานสามารถใช้ได้ทั้ง สแตนเลส หินสังเคราะห์ เซรามิก หรือแม้แต่ซิ้งค์เคลือบอีนาเมลสำหรับสไตล์ลอฟท์ วินเทจ ซึ่งรูปแบบของอ่างล้างจานก็มีทั้งแบบอ่างเดี่ยวถังเดียว แบบอ่างคู่ 2 ช่องไว้แยกล้าง และอ่าง 1.5 หลุมที่เป็นอ่างหลัก พร้อมอ่างเล็ก 

รูปแบบการติดตั้งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ 

  • ติดตั้งซิงค์บนเคาน์เตอร์ เป็นการเจาะเคาน์เตอร์ครัว เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยม ติดตั้งง่าย เมื่อมีปัญหาก็สามารถซ่อมแซมได้ง่าย
  • ติดตั้งซิงค์ด้านล่างเคาน์เตอร์ ซึ่งแบบนี้ก็เป็นการเจาะเคาน์เตอร์ครัวเหมือนกัน แต่ขอบอ่างจะไม่โผล่มาด้านบน ซึ่งทำให้ดูหรูหรา และเรียบร้อยกว่า

วัสดุที่ควรใช้ในห้องครัว ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ ท็อป โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เก็บของ ผนังกันเปื้อน อ่างล้างจาน หรือแม้แต่เครื่องดูดควัน เพราะวัสดุเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวกับความทนทาน การดูแลรักษา ความปลอดภัย

วัสดุที่ควรใช้ในห้องครัว เลือกแบบไหนดี คำนึงถึงอะไรบ้าง

สำหรับการเลือกวัสดุที่ใช้ในห้องครัว ควรพิจารณาหลายปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความทนทาน ความสะดวกในการทำความสะอาด รวมถึงความปลอดภัยต่อการใช้งาน เพราะห้องครัวต้องเจอกับความร้อน น้ำมัน หรือแม้แต่สารเคมีจากน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ ก่อนอื่นเราต้องมาแยกกันก่อนครับว่าวัสดุแบบไหนควรใช้กับตรงจุดไหน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในระยะยาวอย่างคุ้มค่าที่สุดครับ 

  1. ลามิเนต

วัสดุยอดฮิตที่นำมาใช้งานได้ทั้งหลัง รวมไปถึงในห้องครัว สำหรับสายงบน้อยแต่สวยได้ ด้วยลวดลาย และสีสันที่มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ เหมาะสำหรับเคาน์เตอร์หรือหน้าบานตู้ มีคุณสมบัติในความแข็งแรงและทนทานต่อรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย แต่ไม่ทนต่อความร้อนและความชื้นที่สูง 

  1. กระเบื้อง

ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องเซรามิก กระเบื้องพอร์ซเลน หรือกระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะราคาไม่สูง หาซื้อได้ทั่วไป ควรเลือกกระเบื้องที่มีผิวเงาเพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายสำหรับในส่วนของเคาน์เตอร์และผนัง กระเบื้องได้มีความ แข็งแรง ทนทาน ทนความชื้นได้ดี ทำความสะอาดง่ายมากและหาซื้อง่าย แต่ในส่วนที่ต้องเข้าใจและทำใจคือกระเบื้องเมื่อใช้งานไปนานๆ จะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย และมีโอกาสหลุดร่อนเมื่อปูนกาวหมดอายุ

  1. หินแกรนิต

เป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความทนทานสูงมากต่อการขีดข่วน การกระแทก และการใช้งานหนักในห้องครัว โดยเฉพาะในการทำเคาน์เตอร์ครัว หินแกรนิตมีความแข็งแรง และความสวยงามมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในครัวหลาย ๆ แบบ ซึ่งเหมาะสำหรับการตกแต่งห้องครัวในหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แบบคลาสสิกไปจนถึงแบบโมเดิร์น

  1. หินสังเคราะห์ 

หินสังเคราะห์ หรือหินที่ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบหินธรรมชาติ เช่น ควอทซ์ หรือเรซินผสมหิน มีความทนทานสูง ทนต่อความชื้นและรอยขีดข่วน อีกทั้งยังดูแลรักษาง่าย เพราะมันไม่ดูดซับน้ำและคราบต่าง ๆ จึงเหมาะสำหรับใช้ทำเคาน์เตอร์ครัวหรือผนังห้องครัว

  1. สแตนเลส 

 วัสดุที่นิยมใช้งานในห้องครัว ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานและดูแลง่าย เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสัมผัสกับสารเคมี ไม่ขึ้นสนิม ทนความร้อน เช่น ห้องครัวที่ต้องการความสะอาดและการดูแลรักษาง่ายไม่ต้องกังวลเรื่องการดูดซับคราบ สามารถใช้ได้กับเคาน์เตอร์ เครื่องครัว หรือแม้กระทั่งตู้เก็บของในห้องครัว แต่ให้ฟีลร้านอาหารนิดนึงนะครับ อาจไม่เหมาะกับสายมินิมอลหรือโมเดิร์น

วัสดุที่ควรใช้ในห้องครัว ควรพิจารณาหลายปัจจัยเลย เช่น ความทนทาน ความสะอาดง่าย รวมถึงความปลอดภัย เพราะห้องครัวต้องเจอกับความร้อน น้ำมัน หรือแม้แต่สารเคมีจากน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ

อยากต่อเติมครัวหลังบ้านหรือแต่งห้องครัว ต้องรู้จักเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม

อ่านมาถึงตรงนี้ทำเอาใครหลายคนพอจะนึกภาพห้องครัวของตัวเองออกคร่าว ๆ บ้างแล้วใช่ไหมครับ การวางแผนสร้าง ต่อเติม หรือรีโนเวทห้องครัว นั้น เริ่มต้นจากการร่างแบบในหัวก่อนว่าเรามีไลฟ์สไตล์แบบไหน คุณชอบทำอาหารและใช้เวลาในครัวมากแค่ไหน? ลักษณะบ้านที่อาศัยอยู่เป็นอย่างไร? การระบายอากาศในพื้นที่เป็นอย่างไร? คำตอบเหล่านี้จะช่วยให้การเลือกวัสดุง่ายขึ้นมากครับ การเลือกวัสดุที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยให้ห้องครัวของคุณสวยงาม แต่ยังทนทานและใช้งานได้จริงในระยะยาวอีกด้วย ลงทุนกับวัสดุคุณภาพดีตั้งแต่แรกจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคตแน่นอนครับ มาดูกันว่าการต่อเติมห้องครัวหลังบ้านหรือแต่งห้องครัว ควรเลือกวัสดุอะไรดี และต้องพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง

  • ทนทานต่อความร้อนและการใช้งานหนัก

ครัวหลังบ้านเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำอาหาร ดังนั้นวัสดุที่เลือกควรทนความร้อน เช่น หินแกรนิต หรือ หินสังเคราะห์ ที่สามารถทนความร้อนได้ดี เหมาะกับการใช้เป็นท็อปเคาน์เตอร์หรือตู้เก็บของในครัว

  • ทนทานต่อความชื้น

ครัวหลังบ้านมักจะมีความชื้นจากการล้างจาน หรือจากการใช้เครื่องมือในการทำอาหาร ดังนั้นควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่อความชื้นและน้ำ เช่น กระเบื้องเซรามิก หรือ สแตนเลส เพราะวัสดุเหล่านี้จะไม่ดูดซึมน้ำหรือเกิดเชื้อรา

  • ทำความสะอาดง่าย

วัสดุที่ทำความสะอาดได้ง่ายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับห้องครัวที่มีการประกอบอาหารอยู่เป็นประจำ เช่น กระเบื้องเซรามิก ที่มีพื้นผิวเรียบและทำความสะอาดง่าย หรือ หินสังเคราะห์ ที่ไม่มีรอยต่อและไม่สะสมคราบอาหาร

  • ทนทานต่อการขูดขีดและแรงกระแทก

การทำอาหารในครัวหลังบ้านมักจะมีการใช้เครื่องครัวและอุปกรณ์หลากหลายชนิด ซึ่งอาจก่อให้เกิดรอยขีดข่วนหรือการกระแทกบนพื้นผิววัสดุได้โดยง่าย ดังนั้นวัสดุที่ทนทานต่อการขีดข่วนและแรงกระแทกจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น หินแกรนิต หรือ หินสังเคราะห์ ที่มีความแข็งแรงสูง

  • สไตล์และดีไซน์ที่เข้ากับบ้าน

ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้งานเท่านั้น การเลือกวัสดุในห้องครัวยังต้องคำนึงถึงดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์ของบ้านด้วย หากต้องการให้ครัวดูหรูหราหรือโมเดิร์น อาจเลือก หินอ่อน หรือ กระจกเทมเปอร์ สำหรับผนังกันเปื้อน หรือ ไม้สังเคราะห์ สำหรับการตกแต่ง

การเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการต่อเติมหรือแต่งห้องครัวหลังบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากเลือกวัสดุที่ทนทานต่อความร้อน ความชื้น รอยขีดข่วน และง่ายต่อการทำความสะอาด จะช่วยให้ครัวของคุณใช้งานได้สะดวกและยาวนาน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงดีไซน์ที่เข้ากับบ้าน เพื่อให้ครัวดูสวยงามและไม่ตกยุคด้วยครับ

อยากต่อเติมครัวหลังบ้านหรือแต่งห้องครัว ต้องทำความรู้จักวัสดุที่ควรใช้ในห้องครัวต้องเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม ต้องทนทานต่อความร้อนและการใช้งานหนัก ทนทานต่อความชื้น การขูดขีดและแรงกระแทก ทำความสะอาดง่าย และสไตล์และดีไซน์ที่เข้ากับบ้าน

ทำไมต้องเลือกต่อเติมห้องครัวกับ ADDZestHome 

เพื่อตอกย้ำว่าเรามีความเป็นมืออาชีพแค่ไหน ให้คุณได้มั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดี ในราคาที่เป็นมิตร แต่ได้คุณภาพคับแน่นกว่าราคาที่จ่าย และตรงตามความต้องการ นี้คือเหตุผลหลักว่าทำไมถึงควรเลือกต่อเติมครัวกับ “ADDZestHome”

  • ทำงานตรงเวลา 

ADDZestHome มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลา ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องรอนานหรือล่าช้า ช่วยให้คุณสามารถใช้ครัวใหม่ได้ตามเวลาที่ตั้งใจไว้

  • ทีมงานมีประสบการณ์ ทำงานอย่างมืออาชีพ

ทีมช่างของ ADDZestHome เป็นช่างที่มีประสบการณ์และมีทักษะในการทำงานที่ยอดเยี่ยม การเลือกใช้บริการจากทีมช่างที่มีประสบการณ์จะช่วยให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง การเลือกวัสดุ หรือการทำงานในทุกขั้นตอน 

  • ช่างไม่ทิ้งงาน 

เพราะเราเป็นบริษัทที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน มีประสบการณ์ในการดำเนินโครงการต่อเติมบ้านมากกว่า 300 หลัง ช่างที่ ADDZestHome รับประกันว่าไม่ทิ้งงานกลางคันหรือหนีหายไปจากโครงการ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าโครงการของคุณจะเสร็จสมบูรณ์ตามที่ตกลงไว้และไม่มีปัญหาทิ้งงานอย่างแน่นอน

  • มีการทำแบบ 3D ให้ดูก่อน

มีบริการลงสำรวจหน้างาน สร้างแบบร่าง 3D ให้ดูล่วงหน้า ทำให้เห็นภาพรวมคร่าว ๆ ของงานก่อนตัดสินใจเริ่มงานต่อเติมจริง เพราะการเห็นแบบในรูปแบบ 3D ช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ตามความต้องการ และมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะตรงกับสิ่งที่คุณคาดหวัง

  • วัสดุคุณภาพและการเลือกใช้ที่เหมาะสม

เราเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับการใช้งานในห้องครัว ซึ่งทำให้ห้องครัวของคุณไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และดูแลรักษาง่าย

  • บริการที่ครบวงจร

ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการเลือกวัสดุ การติดตั้ง และการตกแต่ง ADDZestHome เรามีบริการที่ครบวงจร ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและไม่ต้องไปหาผู้ให้บริการหลาย ๆ ราย ทำให้โครงการต่อเติมของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น

  • ใส่ใจในทุกรายละเอียด

เรามุ่งมั่นในการใส่ใจในทุกรายละเอียดของงาน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกๆ ขั้นตอนเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าและคุณภาพสูงสุด

  • รับประกับคุณภาพงาน 1 ปี 

เพื่อเป็นคำขอบคุณตอบแทนที่ลูกค้ามอบโอกาสให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านในฝัน เราพร้อมรับประกันงาน 1 ปีหลังจากส่งงาน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้งานคุณภาพ และไม่มีการทอดทิ้งลูกค้าคนสำคัญครับ

  • ราคาคุ้มค่า

แม้ว่าจะเป็นบริการที่มีคุณภาพสูง แต่ ADDZestHome เราเสนอราคาที่คุ้มค่ากับการลงทุน เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มค่าที่สุดจากโครงการต่อเติมห้องครัวของคุณ

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการจบทุกปัญหาจุกจิก งบไม่บานปลาย ได้งานตรงปกไม่จกตา “ADDZestHome” เรายินดีให้บริการงานต่อเติมบ้านสำหรับบ้านทุกแบบ ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ด้วยประสบการณ์ต่อเติมบ้านกว่า 300 หลัง ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมส่งมอบงานคุณภาพ หมดกังวลกับปัญหาช่างทิ้งงาน อัปเดตงานทุกระยะการต่อเติม เจ้าของบ้านสามารถดูความคืบหน้างานได้ผ่านทางไลน์ พร้อมรับประกันหลังการขาย 1 ปี เพื่อตอบแทนลูกค้าคนสำคัญ สามารถดูผลงานที่ผ่านมาของเราได้ที่ ผลงานต่อเติมบ้าน

ติดต่อเรา

ADDZestHome ยืนหนึ่งเรื่องงานต่อเติมทาวน์โฮม

เรายินดีให้บริการต่อเติมบ้านครบวงจรโดยทีมงานคุณภาพ ไม่มีประวัติทิ้งงาน พร้อมรับประกันผลงานหลังต่อเติม

Scroll to Top