ในปัจจุบันบ้านทาวน์โฮมหรือบ้านแฝด กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนเมืองหรือครอบครัวขนาดเล็ก เนื่องจากมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยว อีกทั้งยังมีทำเลที่มักตั้งอยู่ใกล้แหล่งชุมชน สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบขนส่งสาธารณะ เรียกได้ว่าทำเลทองทั้งนั้นเลยครับ จึงทำให้ทาวน์โฮมตอบโจทย์ในยุคนี้เลยครับ อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างกระทัดรัด โดยเฉพาะในส่วนของ พื้นที่หลังบ้าน ที่มักจะถูกออกแบบมาให้เป็นเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ติดกับห้องนั่งเล่น ทำให้หลายครอบครัวเริ่มมีความคิดว่า “จะต่อเติมห้องครัวดีไหม?” “ต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮม ได้หรือเปล่า?”
คำถามนี้ถือเป็นประเด็นที่เจ้าของทาวน์โฮมจำนวนมากสนใจ เพราะการมีห้องครัวที่ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะห้องครัวที่ต้องรองรับการทำอาหารไทย ต้ม ผัด แกง ทอด ที่มีทั้งควัน ทั้งกลิ่น นับเป็นเรื่องใหญ่ของหลายบ้านเลยใช่ไหมครับ ซึ่งเมื่อเราต้องการพื้นที่สำหรับทำครัว ก็เป็นเหตุให้ต้องมองหาทางออกอย่างการต่อเติมห้องครัวด้านหลังบ้าน กลายเป็นเรื่องปกติของเจ้าของบ้านทาวน์โฮมเลยครับ หรือจะเรียกได้ว่าทาวน์โฮมแทบทุกหลังก็ว่าได้ครับ
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าความต้องการจะมีมากขึ้นการต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮมก็ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทันทีโดยไม่มีข้อควรระวังนะครับ เพราะการต่อเติมมีข้อที่ควรรู้หลายอย่างครับ ทั้งกฎหมายข้อบังคับ การออกแบบที่เหมาะสมกับโครงสร้างอาคารเดิม ข้อบังคับของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และยังรวมไปถึงปัญหาเรื่องการระบายน้ำ กลิ่น หรือผลกระทบต่อเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งหากละเลยอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาในระยะยาวด้วยครับ
ทางที่ดีควรทำการบ้านให้ดีก่อนจะตัดสินใจต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮม การมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับข้อควรรู้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบบก่อสร้างที่เหมาะสม การเลือกวัสดุที่ปลอดภัยกับโครงสร้างบ้าน การปรึกษาวิศวกรหรือสถาปนิก รวมไปถึงการขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้การต่อเติมเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และใช้งานได้จริงในระยะยาว วันนี้ “ADDZestHome” จะพามาเจาะลึกแบบละเอียดว่าการต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮมมีอะไรบ้างที่ต้องรู้ครับ
ข้อจำกัดในการต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮมที่ต้องรู้
การต่อเติมครัวหลังบ้านทาวน์โฮม เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านจำนวนมากเลือกทำ เพราะ บ้านทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะมีพื้นที่เปล่าหลังบ้านเผื่อไว้สำหรับทำครัวอยู่แล้วแต่เป็นพื้นที่เปิดโล่งที่ไม่เหมาะกับการใช้งานครับ โดยเฉพาะครอบครัวที่ชื่นชอบการทำอาหารที่ต้องการพื้นที่ทำครัวแบบจริงจัง แต่ด้วยโครงสร้างที่มีข้อจำกัดและพื้นที่ที่จำกัดของทาวน์โฮม การต่อเติมครัวจึงไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ตามใจชอบอยู่ดีครับ เราจำเป็นต้องรู้ข้อจำกัดและปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นก่อนลงมือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงทั้งทางกฎหมาย ความปลอดภัย และผลกระทบต่อเพื่อนบ้าน ดังนั้นเราได้ยก 10 ข้อจำกัดในการต่อเติมครัวหลังบ้านทาวน์โฮมที่ต้องรู้มาให้แบบเจาะลึก เข้าใจง่ายมาฝากกันครับ มาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
1. ข้อกำหนดของโครงการหมู่บ้าน
บางท่านอาจยังไม่ทราบว่าหลายโครงการมีข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับการต่อเติม เช่น ห้ามก่อสร้างล้ำแนวเขต ห้ามเปลี่ยนหลังคา ห้ามปิดพื้นที่เปิด หรือแม้แต่ห้ามเปลี่ยนแปลงสีของผนังภายนอก ห้ามก่อสร้างสูงเกินที่กำหนด หรือห้ามใช้งานวัสดุบางประเภทที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์โครงการ ซึ่งหากละเลยอาจนำไปสู่การถูกร้องเรียนหรือถูกสั่งรื้อถอนภายหลังเลยก็ได้ครับ
วิธีแก้ปัญหา : ควรตรวจสอบข้อบังคับของนิติบุคคลหมู่บ้านให้แน่ชัดก่อนเริ่มงาน หรือขออนุญาตให้ถูกต้องตามขั้นตอน เป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงปรึกษาวิศวกรหรือผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ต่อเติมบ้านในโครงการประเภทเดียวกันดีที่สุดครับ
2. พื้นที่จำกัดและความสูงของอาคาร
บ้านทาวน์โฮมมักมีพื้นที่ด้านหลังค่อนข้างเล็ก ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้พื้นที่แนวลึกมากกว่าแนวกว้าง ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ด้านหลังบ้านโดยเฉลี่ยมักมีขนาดไม่เกิน 2-3 เมตร ทำให้การต่อเติมต้องคิดให้รอบคอบว่าจะวางฟังก์ชันใดไว้ตรงไหน ไม่เช่นนั้นอาจได้ครัวที่อึดอัดครับ อาจทำให้เดินไม่สะดวก หรือไม่มีพื้นที่เหลือพอวางอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ตู้เย็น หรือซิงค์ล้างจาน
ยิ่งไปกว่านั้นความสูงของผนังหรือหลังคาที่ต่อเติมใหม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของโครงการด้วยครับห้ามสูงเกินแนวรั้ว หรือห้ามใช้วัสดุที่บดบังทัศนียภาพ*ของ*เพื่อนบ้าน จะได้ไม่มีปัญหากันภายหลังครับ
- วิธีแก้ปัญหา : เลือกดีไซน์ครัวที่ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า เช่น ครัวรูปตัว L หรือครัว ตัวi ที่ใช้งานต่อเนื่องได้สะดวกโดยที่ไม่มีมุมไหนที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แนะนำให้ใช้ตู้แบบแขวนเพื่อลดการใช้พื้นที่บนพื้น รวมถึงออกแบบเพดานให้โปร่ง โล่ง หรือมีช่องแสง เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งทำให้รู้สึกไม่อึดอัดครับ
3. ปัญหาการระบายอากาศและกลิ่น
เนื่องจากผนังของบ้านทาวน์โฮมมักติดกับบ้านข้างเคียง การทำอาหารที่มีกลิ่นแรงโดยไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีอาจทำให้กลิ่นอาหารฟุ้งเข้าไปยังบ้านเพื่อนบ้านได้ นี่แหละครับเป็นการสร้างความไม่พอใจ หรือการสร้างศัตรูทางอ้อมเลย ทำให้เราเองก็พลอยรู้สึกไม่สบายเมื่อใช้งานครัวไปด้วย
- วิธีแก้ปัญหา : ติดตั้งระบบดูดควันที่มีประสิทธิภาพ หรือออกแบบครัวให้ระบายอากาศได้ดี อาจทำหลังคาสองชั้นสำหรับบ้านหลังกลางหรือติดตั้งพัดลมดูดอากาศติดผนังสำหรับบ้านหลังหลังมุมสามารถเปิดให้อากาศถ่ายเทได้ในตอนทำอาหาร นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฝ้าเพดานทึบที่ปิดสนิท เพราะจะทำให้กลิ่นสะสมมากขึ้นครับ
4. ความปลอดภัยและโครงสร้างบ้าน
สำหรับการต่อเติมที่มีผลต่อโครงสร้างหลัก อย่างพวกหลังคา ผนัง หรือการยึดเคาน์เตอร์หนัก ๆ เข้ากับผนังบ้านเดิม ขั้นตอนนี้เราควรต้องพิจารณาว่าก่อสร้างได้ปลอดภัยจริงหรือไม่ เพราะแน่นอนว่าโครงสร้างของทาวน์โฮม ไม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักเพิ่มเติมมากสักเท่าไหร่ครับ
- วิธีแก้ปัญหา : หากพื้นที่เดิมไม่มีเสาเข็ม การต่อเติมครัวโดยไม่ลงเสาเข็มใหม่อาจทำให้เกิดปัญหาภายหลัง เช่น พื้นทรุด กำแพงแยก หรือระดับพื้นเอียงไม่เท่ากัน เราจึงแนะนำให้ลงเสาเข็มไมโครไพล์เพื่อสร้างฐานรากที่แข็งแรง รองรับน้ำหนักส่วนต่อเติมได้อย่างมั่นคง ให้ห้องครัวใหม่ของคุณใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องกังวลเรื่องโครงสร้างในอนาคตครับ
5. ความเสี่ยงน้ำท่วมและการระบายน้ำ
พื้นที่หลังบ้านในหลายโครงการมีระดับต่ำกว่าระดับพื้นภายในบ้าน หากไม่มีการวางระบบน้ำเสียหรือน้ำฝนให้ดี อาจทำให้น้ำขังในครัวหลังบ้าน ส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ คราบเชื้อรา หรือกระทั่งน้ำท่วมย้อนเข้าบ้านได้อีกด้วยครับ เพราะมีทาวน์โฮมจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาน้ำท่วมขังจากการต่อเติมที่ไม่มีระบบระบายน้ำที่ดี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนตกชุก
- วิธีแก้ปัญหา : วางระบบท่อระบายน้ำที่เหมาะสมและมีความลาดชันที่เพียงพอ และควรเว้นความลาดเอียงของพื้นบริเวณครัวให้พอน้ำไหลออกได้โดยไม่ย้อนกลับเข้าตัวบ้าน
แนวทางการต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮม ให้ปลอดภัยและสวยงาม
อย่างที่เคยย้ำกันมาเสมอครับว่าการต่อเติมครัวหลังบ้านทาวน์โฮมให้ปลอดภัยและสวยงามนั้น ไม่เพียงแค่เรื่องความสวย แต่ยังต้องคำนึงถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง ความปลอดภัยในการใช้งาน และความสอดคล้องกับพื้นที่เดิมของตัวบ้าน ด้วยความที่บ้านทาวน์โฮมมีข้อจำกัดหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่จำกัด ปัญหาการรับน้ำหนักของโครงสร้างเดิม และข้อกำหนดทางกฎหมายบางอย่าง ดังนั้นการวางแผนอย่างรอบคอบจึงเป็นหัวใจสำคัญในการต่อเติมครัวให้ใช้งานได้จริงและไม่เป็นภาระในระยะยาว
1. เลือกแบบครัวที่เหมาะกับพื้นที่
ในทาวน์โฮมที่มีพื้นที่จำกัด การเลือกแบบครัวที่สอดคล้องกับขนาดพื้นที่ช่วยให้ใช้สอยได้คุ้มค่า โดยแบบครัวรูปตัว L เหมาะมากสำหรับพื้นที่ บ้านทาวน์โฮมช่วยให้มีพื้นที่วางของและทำอาหารได้พร้อมกันโดยไม่รู้สึกอึดอัด ในขณะที่ครัวตัว I เป็นอีกทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะในพื้นที่แคบ เพราะสามารถจัดสรรพื้นที่ทางเดินให้เดินได้สะดวก ทั้งยังช่วยให้มีระยะหยิบจับที่เหมาะสมในระหว่างทำอาหาร สรุปง่าย ๆ คือ
- ครัวรูปตัว L : ใช้พื้นที่น้อยแต่ฟังก์ชันครบ เหมาะกับพื้นที่บ้านทาวน์โฮมใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า และจัดวางอุปกรณ์ได้เป็นระบบ
- ครัวรูปตัว I : ประหยัดพื้นที่และทำงานได้สะดวก
2. ใช้วัสดุที่ทนทานและทำความสะอาดง่าย
วัสดุที่ใช้ในครัวควรเป็นวัสดุที่ทนต่อความร้อน ความชื้น และคราบสกปรก เช่น เคาน์เตอร์ครัวควรใช้หินแกรนิต หรือสแตนเลส ซึ่งแข็งแรงและไม่ดูดซับคราบน้ำมันหรือเชื้อราได้ง่าย ส่วนพื้นครัวควรเลือกวัสดุกันลื่น เช่น กระเบื้องพื้นหยาบ ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักและทนต่อความชื้นได้ดี รวมทั้งง่ายต่อการดูแลรักษา
- เคาน์เตอร์ครัว : ใช้วัสดุหินแกรนิต หรือสแตนเลสที่ทำความสะอาดง่าย
- พื้นครัว : เลือกกระเบื้องกันลื่นหรือแผ่นไวนิลที่ทนทาน
3. ติดตั้งระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ
ในบ้านทาวน์โฮมห้องครัวมักอยู่ติดกับบ้านข้างเคียง จึงจำเป็นต้องออกแบบระบบระบายอากาศให้เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหากลิ่นและควันรบกวนเพื่อนบ้านข้างเคียงครับ โดยเฉพาะเวลาทำอาหาร อันดับแรกเราแนะนำให้ติดตั้งเครื่องดูดควันพร้อมปล่องระบายควันขึ้นหลังคาในแนวดิ่ง ซึ่งช่วยดูดกลิ่นและควันจากจุดกำเนิดโดยตรง ลดการกระจายกลิ่นและควันในแนวราบครับ แล้วในกรณีที่บ้านอยู่ตำแหน่งกลางที่มีเพื่อนบ้านติดทั้งสองฝั่งควรทำหลังคาครัวแบบสองชั้นเพื่อให้มีช่องว่างให้อากาศร้อนลอยตัวหมุนเวียนและถ่ายเทได้ดีและทำช่องแสงบางส่วนเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าในตอนกลางวัน ครัวจะดูโปร่ง โล่ง และไม่อับทึบ ส่วนพัดลมติดผนังก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีในการหมุนเวียนอากาศในแนวราบ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับเครื่องดูดควัน จะทำให้ห้องครัวเย็นขึ้นและเข้าครัวได้อย่างสบายใจ แต่ถ้าบ้านของคุณเป็นหลังมุมควรใช้โอกาสนี้ในการติดตั้งพัดลมระบายอากาศติดผนังเพิ่มเติม จะช่วยให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นอีกขั้น เพียงจัดการระบบระบายอากาศให้เหมาะกับลักษณะบ้าน เท่านี้การเข้าครัวของคุณก็จะเป็นเรื่องสบายทั้งกายและใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนใครเลยครับ
4. จัดแสงสว่างในครัวให้เพียงพอ
ใครว่าแสงไม่สำคัญ การมีแสงสว่างที่ดีในห้องครัวไม่เพียง ช่วยให้ทำอาหารสะดวกขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้ด้วยครับ ควรเลือกใช้ไฟ LED ที่ให้แสงสว่างชัดเจน ประหยัดพลังงาน และไม่ปล่อยความร้อนมาก นอกจากนี้การติดตั้งไฟใต้ตู้แขวนหรือไฟส่องสว่างเฉพาะจุด ตามมุมใช้งานต่างๆในห้องครัวและโซนซักล้าง จะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเวลาเตรียมวัตถุดิบ ซักล้างทำความสะอาด หรือหยิบของจากมุมที่แสงทั่วไปส่องไม่ถึง แสงสว่างที่ดีช่วยให้ใช้งานห้องครัวได้ปลอดภัยและใช้งานง่ายขึ้นในทุกๆ วันครับ
5. วางแผนระบบระบายน้ำที่ดี
ระบบระบายน้ำที่ดีเป็นรากฐานสำคัญของครัวที่ใช้งานได้ในระยะยาวครับ ควรวางตำแหน่งซิงค์ล้างจานให้ใกล้กับตำแหน่งท่อระบายน้ำเดิมของบ้านมากที่สุด ไม่ต้องเดินท่อใหม่ให้ยุ่งยากและเสี่ยงรั่วซึม ควรใช้ท่อระบายน้ำขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการใช้งานต่อเนื่อง และมีการติดตะแกรงกันเศษอาหารเข้าไปอุดตันท่อ เพื่อป้องกันกลิ่นย้อนขึ้นมาหรือระบายน้ำช้าซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในครัวต่อเติม
หากมีการวางแผนดีตั้งแต่ต้นและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม ควบคู่กับการดูแลโครงสร้างพื้นฐานอย่างถูกต้อง การต่อเติมครัวหลังบ้านทาวน์โฮมก็จะกลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งความสวยงาม ความสะดวกในการใช้งาน และความปลอดภัยในระยะยาวด้วยครับ
ข้อกฎหมายที่ควรรู้ก่อนต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮม
มาถึงข้อที่หลายคนสงสัยกันแล้วครับ บางคนอาจยังเข้าใจผิดว่าการต่อเติมไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากมาย แต่ความเป็นจริงมีรายละเอียดที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับ เรื่องข้อกฎหมายที่ควรรู้ก่อนต่อเติมค่อนข้างเยอะอยู่ครับ เพราะตามกฎหมายแล้วถือเป็น “การดัดแปลงอาคาร” ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร และระเบียบท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมายในภายหลังครับ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านข้างเคียงที่อาจได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง เพราะถ้ามีปัญหากับเพื่อนบ้านรับรองว่าน่าปวดหัวสุด ๆ เลยครับ ดังนั้นมาดูกันก่อนครับว่า มีอะไรบ้างที่ต้องรู้
-
ระยะร่นและที่เว้นว่าง
ตามกฎหมายควบคุมอาคาร พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 การต่อเติมหลังบ้านต้องเว้นระยะร่นจากเขตที่ดินบ้านข้างเคียงอย่างน้อย 50 เซนติเมตร หากเป็นผนังทึบสูงไม่เกิน 9 เมตร และหากมีการเปิดช่องหน้าต่างหรือระบายอากาศ ต้องร่นไม่น้อยกว่า 2 เมตร เพื่อป้องกันปัญหาการรบกวนสิทธิของเพื่อนบ้าน และเพื่อความเป็นส่วนตัวของแต่ละหลัง
-
ขออนุญาตสำนักงานเขต
การต่อเติมที่เปลี่ยนโครงสร้างหรือขยายพื้นที่ใช้งาน เช่น ต่อหลังคาครัว สร้างผนังปิดหลังบ้าน เดินระบบไฟฟ้าประปาใหม่ หรือเทพื้นเพิ่ม ถือเป็นการดัดแปลงอาคารตามกฎหมาย จำเป็นต้องยื่นคำร้องขออนุญาตต่อสำนักงานเขตหรือเทศบาลท้องถิ่น โดยแนบแบบแปลน รายละเอียดโครงสร้าง และชื่อวิศวกรหรือสถาปนิกผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งถ้าเราหัวหมอไม่ยอมไปยื่นขอ อาจถูกสั่งรื้อถอนภายหลังหรือไม่สามารถขายบ้านได้ในอนาคตเลยครับ
-
การยินยอมจากเพื่อนบ้าน
หากการต่อเติมอยู่ติดกับรั้วหรือผนังร่วมกับบ้านข้างเคียง การขอหนังสือยินยอมจากเพื่อนบ้านเป็นสิ่งที่ต้องทำครับ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้พื้นที่ชิดเขต หรืออาจมีผลกระทบเรื่องเสียง ฝุ่น กลิ่น หรือความรำคาญ แม้กฎหมายไม่ได้บังคับในทุกราย เพราะถ้าหากวันหนึ่งเกิดผิดใจกันแล้วโดนเพื่อนบ้านร้องเรียน เจ้าหน้าที่เขตก็สามารถลงพื้นที่ตรวจสอบและออกคำสั่งให้ระงับงานได้ ดังนั้นเพื่อความเรียบร้อยจึงควรแจ้งและขอความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรให้เรียบร้อยนะครับ
-
ช่วงเวลาในการก่อสร้าง
กฎหมายไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่ชัด แต่โดยทั่วไปควรก่อสร้างในช่วงเวลา 8.00–17.00 น. และหลีกเลี่ยงการทำงานเสียงดังในวันหยุดหรือช่วงเย็นจะดีที่สุดครับ หากมีเสียงรบกวนเกินขอบเขตตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องมลพิษทางเสียง อันนี้เราอาจถูกร้องเรียนและเจ้าหน้าที่สามารถออกคำสั่งระงับชั่วคราวได้ ดังนั้นควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์และปฏิบัติตามมารยาทของชุมชนกันด้วยนะครับ
-
บทลงโทษเมื่อต่อเติมผิดกฎหมาย
หากมีการต่อเติมโดยไม่ขออนุญาตหรือฝ่าฝืนระยะร่น กฎหมายมีบทลงโทษตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร ได้แก่ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะรื้อถอนหรือแก้ไขให้ถูกต้อง แต่ถ้าหากเจ้าของบ้านขายบ้านในอนาคต แบบบ้านที่มีการต่อเติมผิดกฎหมายก็อาจไม่ผ่านการโอนกรรมสิทธิ์ เพราะไม่ตรงกับทะเบียนบ้านและเอกสารสิทธิ์เดิมครับ
ดังนั้นการต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮม จึงไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์หรือฟังก์ชัน แต่ต้องใส่ใจเรื่องข้อกฎหมายให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง ทั้งทางกฎหมาย ความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน และความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยด้วยนั่นเองครับ
ทำไมต้องเลือกต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮมกับ ADDZestHome?
การต่อเติมครัวหลังบ้านทาวน์โฮม เป็นงานที่ต้องใช้ทั้งความรู้ความชำนาญ และประสบการณ์มากพอสมควรครับ จึงไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะมาทำ จำเป็นต้องมีการออกแบบ และความเข้าใจในข้อจำกัดของพื้นที่แต่ละหลัง ซึ่ง ADDZestHome ตอบโจทย์ครบทุกด้านด้วยประสบการณ์และความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณได้ครัวที่สวย ใช้งานได้จริง และปลอดภัยในระยะยาว
ทีมช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการต่อเติมห้องครัวหลังบ้านทาวน์โฮม เราเข้าใจดีว่าทาวน์โฮมมีข้อจำกัดเฉพาะยิบย่อยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะพื้นที่ที่มีจำกัด โครงสร้างที่ต้องระวัง หรือระยะร่นตามกฎหมาย ซึ่งทีมช่างของ ADDZestHome ผ่านงานต่อเติมครัวในโครงการทาวน์โฮมมานับร้อยหลัง พร้อมแก้ปัญหาหน้างานอย่างมืออาชีพ และปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
บริการออกแบบครัวที่ใช้งานได้จริงและสวยงามตามสไตล์ของคุณ ไม่ใช่แค่การต่อเติม แต่เรายังช่วยออกแบบครัวให้ลงตัวทั้งในเรื่องฟังก์ชันและความงาม ตั้งแต่การจัดวางเคาน์เตอร์ ทิศทางลม ระบบระบายควัน ไปจนถึงการเลือกวัสดุที่เข้ากับบ้านของคุณ ให้คุณได้ครัวที่ตอบโจทย์การใช้งานและสะท้อนรสนิยมส่วนตัว
วัสดุคุณภาพสูงที่ทนทานและปลอดภัย เราเลือกใช้เฉพาะวัสดุที่ผ่านการคัดสรรแล้วว่า เหมาะกับสภาพอากาศและการใช้งานจริงในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโครงเหล็กรับน้ำหนักมาตรฐาน มอก. เคาน์เตอร์ครัวปูน หลังคาเมทัลชีทบุฉนวนกันความร้อนพียูโฟม รวมถึงระบบไฟฟ้า-ประปา ที่ปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม ปลอดภัยในระยะยาว หมดกังวลเรื่องคราบสกปรก กลิ่นอับ หรือการสึกหรอหลังใช้งาน
รับประกันงานทุกโครงการ พร้อมบริการหลังการขายที่มั่นใจได้ ไไม่ว่าคุณจะต่อเติมเล็กหรือใหญ่ ADDZestHome ยืนหยัดด้วยความรับผิดชอบในทุกผลงาน ทุกโครงการมีการรับประกันหลังส่งมอบงานถึง 1 ปี เรามีทีมบริการหลังการขาย พร้อมเข้าแก้ไขหากเกิดปัญหา คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกทิ้งกลางทาง เพราะเราดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมดูแลคุณในระยะยาว เพราะเราเชื่อว่าความสบายใจของลูกค้า คือ หัวใจของงานที่มีคุณภาพ
เพราะเรารู้ดีว่าห้องครัวไม่ใช่แค่ที่ทำอาหาร แต่เป็นหัวใจของบ้าน ADDZestHome เราพร้อมเปลี่ยนครัวหลังบ้านให้กลายเป็นพื้นที่ที่คุณรัก และใช้งานได้อย่างมั่นใจทุกวัน รับประกันความคุ้มค่า และหากคุณอยากได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้จริง ติดต่อ ADDZestHome เพื่อขอคำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ แล้วคุณจะเข้าใจว่าความต่างของ “งานมาตรฐาน” เป็นอย่างไร
