เชื่อว่าหลายคนที่มีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือบ้านแฝด สายรักรถทุกคนคงเคยมีความคิดเหมือนกันใช่ไหมครับว่า ถ้ามีหลังคาโรงรถดี ๆ สักหลังคงช่วยชีวิตรถเราได้เยอะเลย เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับเลยว่าแดดเมืองไทยแรงแบบไม่ปรานีใคร ร้อนขนาดที่จอดรถไม่ถึงชั่วโมงกลับมาเปิดประตูทีแทบไหม้มือ แถมฝนก็เดาไม่ได้ บางทีตากผ้าไว้แห้ง ๆ อยู่ดี ๆ ฝนเทลงมาซะงั้น แล้วรถที่เรารักล่ะครับ จะปล่อยให้ตากแดดเปียกฝนอยู่ทุกวันก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ซึ่งถ้าพูดถึงหลังคาโรงจอดรถหลายคนอาจจะคิดว่า มันก็แค่หลังคานั่นแหละแค่มีหลังคาเอาไว้กันแดดกันฝนก็จบแล้ว จะต้องรู้เรื่องอะไรมากมาย แต่เชื่อเถอะครับ พอถึงเวลาจะทำจริง ๆ แล้วจะรู้เลยว่าเรื่องนี้มีดีเทลเยอะมากกว่าที่คิด ถ้าเราไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ก็มีสิทธิ์งบบานปลาย หรือทำออกมาแล้วไม่ตรงกับความต้องการได้เหมือนกันครับ
เพราะหลายคนเองก็เคยผ่านจุดนั้นมาเหมือนกันครับ ต้องมานั่งศึกษาอีกหลายเรื่องถึงรู้เลยว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องการคลุมหลังคาเฉย ๆ แต่มีผลทั้งกับงบประมาณ การใช้งานระยะยาว ความคุ้มค่าของวัสดุ การรับน้ำหนักของโครงสร้าง ไปจนถึงว่าหลังคาที่ทำจะส่งผลกับหน้าตาบ้านยังไง เพราะอย่างน้อยเราก็ไม่อยากให้บ้านที่เรารักดูแปลกจนเสียดีไซน์จริงไหมครับ ดังนั้นในบทความนี้เลยอยากมาแชร์ให้ฟังแบบง่าย ๆ ว่าทําหลังคาโรงรถ ราคาที่ต้องจ่ายในส่วนต่าง ๆ มีอะไรบ้าง วัสดุแบบไหนที่เหมาะกับการทำหลังคาโรงรถ สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนทำ รวมไปถึงเคล็ดลับลดต้นทุนในการทำหลังคาโรงรถ เรียกได้ว่าเจาะลึกกันแบบหมดเปลือกเลยครับ จะได้เอาไปวางแผนต่อได้ถูกว่าควรทำเอง จ้างช่าง หรือเรียกผู้รับเหมาเจ้าไหนดี ไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง ไม่ต้องลองผิดลองถูกให้เสียเวลาครับ
การต่อเติมหลังคาที่จอดรถมีกี่แบบ
การต่อเติมหลังคาโรงจอดรถ ไม่ว่าจะเพื่อกันแดด กันฝน หรือแค่เพิ่มความเรียบร้อยให้หน้าบ้าน บอกเลยว่าก่อนจะเริ่มลงมือต้องรู้ก่อนนะครับว่า การต่อเติมหลังคาโรงรถเนี่ยมันมีอยู่หลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างบ้านของเรา งบประมาณ และพื้นที่หน้าบ้านด้วย ซึ่งจะขออธิบาย 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้ครับ
แบบไม่ต้องติดตั้งเสา
หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า แขวนหลังคา หรือยึดลอยนั่งเอง แบบนี้คือการใช้โครงสร้างยึดกับผนังบ้านหรือคานของบ้านโดยไม่ต้องตั้งเสาลงพื้นครับ แล้วพาดยื่นออกไปด้านหน้าคล้าย ๆ กันสาดแต่ใหญ่พอจะคลุมรถทั้งคัน ซึ่งจริงๆ แล้วก็ต้องออกแบบโครงสร้างให้รับน้ำหนักได้พอสมควรนะครับ ไม่ใช่ยึดมั่ว ๆ เดี๋ยวฝนตกหนัก ๆ หลังคาหลุดปลิวกลายเป็นว่าวไปซะก่อน
ซึ่งจะเห็นว่าด้านล่างโล่ง ไม่มีอะไรมาบดบังการจอดรถ นั่นแหละครับคือข้อดีที่ชัดเจนที่สุด มันจะให้ความโปร่ง โล่ง สวยงาม และไม่เกะกะเวลาเลี้ยวรถเข้าจอด บางบ้านต่อเติมลักษณะนี้แล้วดูเรียบร้อยมาก เหมือนเป็นดีไซน์เดิมของบ้านเลยครับ ถือว่าเป็นแบบที่หลายคนสนใจเลยทีเดียวเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเสาเหล็กตั้งพื้นให้เปลืองพื้นที่
เหมาะกับคนที่ต้องการความเรียบง่าย สวย โล่ง ไม่อยากให้หน้าบ้านดูแคบลง และต้องการให้โครงสร้างแข็งแรงครับ
ข้อดี
-
-
- ดูสวย โปร่ง ไม่เกะกะหน้าบ้าน
- ไม่เปลืองพื้นที่ เพราะไม่มีเสา
- เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก หรืออยากได้ลุคเรียบๆ ทันสมัย
-
ข้อควรระวัง
-
-
- ต้องดูว่าโครงสร้างของบ้านแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักหรือเปล่า โดยเฉพาะถ้าเป็นบ้านที่สร้างมานานแล้ว
- มักจะต้องใช้วัสดุน้ำหนักเบา เช่น โพลีคาร์บอเนต หรือเมทัลชีทที่ไม่หนาเกินไป
- ช่างที่ทำต้องมีความชำนาญ เพราะการยึดแบบแขวนต้องคำนวณอย่างแม่นยำ
-
แบบติดกับโครงสร้างของตัวบ้าน
แบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในบ้านทั่วๆ ไปเลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันดูแน่นหนาและใช้งานได้จริง หรือบางทีเรียกว่าการต่อเติมหลังคาแบบ lean-to โดยจะใช้โครงเหล็กต่อเติมจากโครงสร้างเดิมของบ้าน เช่น พาดออกจากชายคา หรือยึดกับเสาเดิม แต่มีการวางเสารองเพิ่มขึ้นมารับด้านหน้าเพิ่มเติม ทำให้รับน้ำหนักได้มั่นคงมากกว่าแบบแขวนล้วน ๆ วัสดุที่ใช้มักเป็นเหล็กกล่องหรือโครงสร้างเหล็ก แล้วมุงด้วยเมทัลชีท โพลีคาร์บอเนต ไวนิล หรือแผ่นโปร่งแสง
โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นหลังคาที่ทำได้ง่าย ราคาไม่แรง และบ้านมีผนังที่พร้อมรองรับ นี่เป็นตัวเลือกที่ดีครับ เหมาะกับบ้านที่ต้องการพื้นที่จอดรถจริงจัง ใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน เช่น จอดรถทุกวัน หรือทำเป็นพื้นที่สารพัดประโยชน์ เช่น ซักผ้า ตากผ้า นั่งเล่น และอยากให้ดูเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้านครับ
ข้อดี
- ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว เพราะใช้ผนังบ้านเป็นโครงหลักรับน้ำหนัก
- ราคาประหยัดกว่าหลังคาแบบไม่ติดเสา และโครงสร้างไม่ซับซ้อน
- มีความแข็งแรงดีในระดับหนึ่ง เพราะโครงสร้างบ้านช่วยรับน้ำหนักไปด้วย
- เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ติดผนังมากพอที่จะต่อเติม
ข้อควรระวัง
-
-
- ต้องดูเรื่องตำแหน่งการยึดกับตัวบ้าน เพราะถ้าทำไม่ดีอาจเกิดการรั่วซึมหรือรอยร้าวที่ผนังได้
- อาจต้องขออนุญาตก่อสร้าง เพราะถือเป็นงานต่อเติมที่ใช้โครงสร้างถาวร หากอยู่ในพื้นที่เทศบาลหรือหมู่บ้านที่เข้มงวด อาจต้องยื่นขออนุญาตก่อน
- อาจมีผลต่อระบบระบายน้ำเดิม ต้องคำนวณทิศทางน้ำฝนดี ๆ ไม่ให้ไหลย้อนเข้าบ้าน
-
แยกออกจากตัวบ้าน
แบบสุดท้ายคือการสร้างโครงหลังคาแยกออกจากตัวบ้านไปเลย ถือเป็นที่สุดของความอิสระเลยครับ เพราะไม่ยุ่งกับตัวบ้านเลย ใช้โครงสร้างตั้งขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ตั้งเสา ทำคาน วางหลังคา โดยไม่ต้องยึดกับตัวบ้านแม้แต่นิดเดียว เหมาะมากสำหรับบ้านที่มีพื้นที่เหลือ หรืออยากทำโครงสร้างแบบถาวร ออกแบบได้อิสระว่าหลังคาจะอยู่ตรงไหน จะวางแนวไหน จะหันหน้าหรือหันข้าง จะมีโครงเหล็กหรือเสาปูนตั้งพื้นใหม่ ไม่ยึดติดกับบ้านเดิมเลย บางคนอาจต่อเป็นศาลาเล็กๆ ไปด้วยเลยก็ยังได้
เหมาะกับคนที่มีพื้นที่เหลือเยอะ หรืออยากสร้างโรงรถแบบถาวรที่แยกออกมาเลยโดยไม่ยุ่งกับตัวบ้านเดิม อยากได้โรงรถที่ใช้งานหลากหลาย บางคนทำแบบนี้เผื่อเอาไว้เป็นมุมซักล้าง มุมนั่งเล่น หรือเก็บของในอนาคตก็ได้ครับ
ข้อดี
- ออกแบบได้อิสระ ไม่กระทบโครงสร้างบ้านเดิม
- รองรับน้ำหนักได้มาก จอดรถใหญ่ รถตู้ ก็ยังไหว
- ดัดแปลงใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้ เช่น ทำเป็นที่นั่งเล่น ห้องเก็บของ
- ถ้าทำดี ๆ ดูแพง ดูโปรเหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ
ข้อควรระวัง
- ราคาสูงที่สุด เพราะต้องทำทั้งเสา คาน หลังคา และฐานราก
- ใช้พื้นที่มาก ต้องมีบริเวณพอสมควร
- อาจต้องมีวิศวกรออกแบบหรือควบคุมงาน
- กฎหมายควบคุมอาคารมาแน่นอน ต้องขออนุญาตก่อนทำด้วยนะครับ
การเลือกแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก ๆ คือ งบประมาณ พื้นที่หน้าบ้าน ความแข็งแรงของตัวบ้านเดิม แล ดีไซน์ที่เราต้องการ ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อจำกัดของตัวเอง มาดูสรุปง่าย ๆ ก่อนเลือกแบบหลังคาโรงจอดรถกันครับ
แบบต่อเติม | จุดเด่น | เหมาะกับใคร |
ไม่ต้องมีเสา | โปร่ง ไม่เกะกะ | บ้านโมเดิร์น จอดรถคันเดียว |
ติดกับตัวบ้าน | แข็งแรง ทำได้ใหญ่ | บ้านทั่วไป ใช้งานจริงจัง |
แยกออกจากบ้าน | อิสระ ไม่ยุ่งกับโครงสร้างเดิม | มีพื้นที่เยอะ อยากทำโรงรถแยก |
ทําหลังคาโรงจอดรถ ราคาที่ต้องจ่ายในส่วนต่าง ๆ มีอะไรบ้าง?
การต่อเติมหลังคาโรงจอดรถไม่ใช่แค่ซื้อแผ่นมุง ๆ แล้วจบนะครับ มันมีหลายองค์ประกอบที่ต้องคำนวณงบเอาไว้ล่วงหน้า จะได้ไม่เจอเซอร์ไพรส์ระหว่างทาง เพราะจริง ๆ แล้วราคาที่เราต้องจ่ายนั้นไม่ใช่แค่ค่าวัสดุแผ่นหลังคาเท่านั้นนะครับ แต่มีหลายส่วนประกอบรวมกัน และแต่ละส่วนก็มีผลต่อทั้งคุณภาพ ความทนทาน และความสวยงาม ในระยะยาวเลย ดังนั้นเลยอยากจะขออธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ แยกให้ชัดเป็น 3 หมวดหลักที่คุณต้องรู้ก่อนคุยกับช่างหรือผู้รับเหมา เพื่อวางแผนงบประมาณจะได้ไม่บานปลายครับว่าเราต้องจ่ายในส่วนไหนบ้าง และแต่ละส่วนเกี่ยวข้องกับอะไรบ้างครับ
- โครงหลังคา ที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของระบบหลังคาทั้งหมดครับ เพราะอันนี้คือหัวใจของหลังคา ไม่ว่าเราจะใช้วัสดุแผ่นหลังคาแบบไหน ก็ต้องยึดอยู่บนโครงที่แข็งแรง โดยปกติแล้วช่างจะใช้เหล็กกล่อง เหล็กตัวซี หรือถ้าเน้นสวยและกันสนิม ก็จะใช้อลูมิเนียมหรือโครงสแตนเลส
ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ อยู่ที่ประมาณ 800 – 2,500 บาท/ตร.ม. ขึ้นอยู่กับความหนาของเหล็ก ชนิดวัสดุและความซับซ้อนของแบบ และขนาดพื้นที่ที่ต้องการครอบคลุม บางบ้านโครงซ่อน บางบ้านทำโมเดิร์น ต้องเชื่อมหลายจุด ราคาก็เพิ่มขึ้นครับ
คำแนะนำจากผมที่อยากจะบอกคือ อย่ามองแค่ว่าเหล็กอะไรก็เหมือนกัน เพราะโครงที่แข็งแรงดีจะอยู่ได้นาน ไม่เป็นสนิมง่าย และไม่แอ่นตัวตอนฝนตกหนักหรือแดดแรง ๆ ครับ
- แผ่นหลังคา
พอมีโครงแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องมีคือ วัสดุคลุมหลังคา หรือแผ่นหลังคานั่นเองครับ ซึ่งอันนี้มีหลายชนิดให้เลือกไม่ว่าจะเป็นเมทัลชีท ไวนิล โพลีคาร์บอเนต หลังคากระเบื้อง หรือแม้แต่ แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งการเลือกก็ต้องคิดหนักนิดนึงนะครับเพราะแผ่นหลังคาเป็นหน้าตาของงานต่อเติมเลยครับ เพราะมันเป็นสิ่งแรกที่มองเห็น และเป็นตัวกำหนดว่าหลังคานั้นจะกันแดด กันฝน กันเสียงได้แค่ไหน
สิ่งที่รวมในราคาส่วนนี้ก็จะเป็นงบในส่วนของแผ่นหลังคา ค่าติดตั้ง ฉนวนกันความร้อน ขอบบัว ปิดปลาย มุมตกแต่งต่าง ๆ เพราะบางที่คิดแยก ซึ่งค่าใช้จ่ายเลยจะขึ้นอยู่กับชนิดวัสดุ ดังนี้ครับ
- เมทัลชีท ราคาประเมินคร่าว ๆ ประมาณ 200 – 500 บาท/ตร.ม.
แต่ถ้าเลือกแบบมีฉนวนกันร้อนจะเพิ่มราคาเป็น 500 – 800 บาท/ตร.ม.
- โพลีคาร์บอเนต ราคาประเมินคร่าว ๆ ประมาณ 700 – 1,200 บาท/ตร.ม.
- ไวนิล ราคาประเมินคร่าว ๆ ประมาณ 900 – 1,500 บาท/ตร.ม.
- แผ่นดีไลท์ หรืออะคริลิกโปร่งแสง ราคาประเมินคร่าว ๆ ประมาณ
800 – 1,200 บาท/ตร.ม.
คำแนะนำ คือ อย่ามองแต่ราคาถูกครับ ให้ดูว่าเหมาะกับจุดติดตั้งไหมถ้าเน้นกันร้อนดูเรื่องการบุฉนวนหรือเลือกแบบเคลือบสารกัน UV ด้วย ส่วนถ้าชอบแสงธรรมชาติ ก็เลือกโพลีคาร์บอเนตที่มีเคลือบ UV หนาๆ หน่อยครับ ไม่งั้นรถข้างในก็โดนแดดอยู่ดีครับ
- ฝ้าเพดานหลังคา
หลายคนอาจจะคิดว่าฝ้าเพดานหลังคาไม่จำเป็น ตรงนี้เลยไม่ใช่ทุกคนจะติดครับ เพราะเป็นแค่ที่จอดรถ บางคนเลยทำหลังคาโปร่ง ๆ โชว์โครงเหล็กก็พอแล้ว แต่จริง ๆ มันช่วยให้หลังคาดูเรียบร้อย ดูสวยสะอาด แถมยังช่วยกันความร้อนจากหลังคาได้อีกชั้นหนึ่ง
ฝ้าแบบธรรมดาค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ อยู่ที่ประมาณ 350 – 600 บาท/ตร.ม. แต่ถ้าเป็นฝ้าระแนงซ่อนไฟ ก็จะกระโดดมาอยู่ที่ประมาณ 800 – 1,500 บาท/ตร.ม. แล้วแต่ดีไซน์ครับ
คำแนะนำ คือ ถ้าอยากให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยแบบบ้านตัวอย่างในโครงการ หรืออยากลดความร้อนใต้หลังคา การติดฝ้าจะช่วยได้เยอะครับ แต่ก็เพิ่มงบไปอีกพอสมควร ต้องวางแผนดี ๆ ครับ และถ้าคิดจะทำฝ้า แนะนำให้เดินท่อไฟ ใส่ไฟดาวน์ไลท์พร้อมกันไปเลย จะดูสวยและมีประโยชน์ตอนกลางคืน และอย่าลืมใส่ใจเรื่องวัสดุนิดนึงนะครับ ถ้าเลือกใช้ฝ้าผิดประเภท ใช้ยิปซั่มธรรมดาในที่ชื้น อาจเจอปัญหาบวม พังภายในปีเดียวได้เลยครับ
ดังนั้นรวมคร่าว ๆ ถ้าทำหลังคาโรงจอดรถพร้อมฝ้า และใช้วัสดุมาตรฐานทั่วไป งบประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 4,500 บาท/ตร.ม. แล้วแต่เลือกวัสดุและรายละเอียดดีไซน์ของงานจริงครับ และนอกจาก 3 ส่วนหลักข้างบน ยังมีบางอย่างที่ต้องเผื่องบไว้ด้วยนะครับ เช่น
- ค่าทำรางน้ำฝน ทำท่อน้ำทิ้ง ประมาณ 300 – 700 บาท/เมตร
- ค่างานเทพื้น ถ้าต้องเสริมเฉลี่ยแล้วประมาณ 400 – 800 บาท/ตร.ม.
- ค่าออกแบบหรือเขียนแบบขออนุญาต ถ้าต้องขออนุญาตกับเขต ราคาประมาณ 2,000 – 10,000 บาท แล้วแต่ผู้รับเหมาบางเจ้าด้วยครับ แต่บางที่ก็ไม่ได้มีส่วนนี้เพิ่มเติม
ค่าแรงช่างและค่าใช้จ่ายจิปาถะบางรายการ อันนี้บางทีมารวมในราคาทั้งหมดแล้ว แต่ทางที่ดีควรสอบถามให้ชัดเจนด้วยนะครับ จะได้ไม่เสียเงินซ้ำซ้อนครับ
วัสดุแบบไหนที่เหมาะกับการทำหลังคาโรงรถ และใช้งบประมาณเท่าไหร่
เวลาเราพูดถึงโรงจอดรถ หลายคนอาจจะนึกถึงแค่พื้นที่โล่งหน้าบ้าน แต่พอใช้จริง ๆ เข้าไปหลายปีถึงจะรู้ว่าหลังคานี่แหละสำคัญไม่แพ้อะไรเลย เพราะต้องโดนทั้งแดดทั้งฝนตลอดเวลา และคำถามยอดฮิตที่เจอบ่อยมากเลยคือ หลังคาโรงจอดรถควรใช้วัสดุอะไรดี? เพราะแต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน บางแบบสวยแต่ร้อน บางแบบเย็นแต่หนัก บางแบบถูกแต่เสียงดัง แล้วราคาก็ไม่เท่ากันอีก เรียกได้ว่าเลือกผิดทีมีเจ็บใจได้เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงอยากมาแชร์ว่าวัสดุที่นิยมนำมาทำหลังคาโรงจอดรถมีอะไรบ้าง แต่ละแบบเหมาะกับใคร และใช้งบประมาณประมาณเท่าไหร่ จะได้เลือกให้เหมาะกับงบ ความต้องการ และสไตล์ของบ้านกันแบบไม่ต้องเดาสุ่มครับ
- หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) เป็นวัสดุยอดนิยมอันดับต้น ๆ สำหรับหลังคาโรงรถ เพราะมันราคาถูก น้ำหนักเบา แล้วก็หาช่างติดตั้งง่าย เหมาะกับบ้านที่งบไม่เยอะมาก อยากต่อเติมหลังคาไว้กันแดดกันฝนแบบไม่ซับซ้อน
เมทัลชีทดีตรงที่ติดตั้งเร็วและเบา ไม่ต้องเสริมโครงสร้างมากให้สิ้นเปลือง แต่ข้อเสียก็ชัดเจน คือมันร้อนมาก โดยเฉพาะบ้านที่หันหน้าทิศตะวันตก เจอแดดบ่ายเข้าไปเต็ม ๆ จะรู้สึกเลยว่าบริเวณโรงรถอบอ้าว แล้วเวลาฝนตกเสียงก็ดังพอสมควร
ดังนั้นถ้าใครเลือกใช้เมทัลชีท แนะนำให้เพิ่มฉนวนกันความร้อนเข้าไปด้วยเลยครับ จะช่วยให้ร้อนน้อยลงได้เยอะ ส่วนราคาจะอยู่ที่ประมาณ 300–800 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับว่าจะติดฉนวนหรือไม่ครับ
- หลังคาไวนิล หรือ PVC ตัวนี้ข้อดีคือไม่ร้อน เป็นวัสดุอีกแบบที่หลายคนเริ่มหันมาใช้มากขึ้น เพราะเค้าเงียบกว่าเมทัลชีทเยอะครับ พอเวลาฝนตกเสียงจะนุ่มกว่า ไม่กระทบแรง ๆ จนรำคาญ ที่สำคัญคือดูสวย เรียบหรู และสีไม่สะท้อนแสงแสบตา ทำให้หลังคาดูกลืนไปกับตัวบ้านได้ดี แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และน้ำหนักจะมากกว่าเมทัลชีทพอสมควร
ถ้าโครงสร้างที่ต่อเติมไม่ได้แข็งแรงพออาจต้องเสริมเหล็กเพิ่ม ทำให้ต้นทุนเพิ่มตาม ในส่วนราคาของไวนิลจะอยู่ที่ประมาณ 800–1,200 บาทต่อตารางเมตร ใครที่เน้นความเรียบร้อย ดูดี และต้องการหลังคาที่ใช้งานได้นาน ไวนิลถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ครับ
- หลังคากระเบื้องลอนคู่ สำหรับคนที่อยากได้หลังคาที่เย็น เงียบ และทนทานสุด ๆ แนะนำอันนี้เลยครับ ถือว่าเป็นแชมป์เรื่องความเย็น เพราะวัสดุเป็นซีเมนต์หนา ช่วยกันความร้อนได้ดีมาก แถมเวลาฝนตกเสียงก็นุ่ม ไม่ก้องเหมือนแผ่นเหล็ก
จุดแข็งอีกอย่างคือทนแดด ทนฝน ใช้งานได้เป็นสิบปีไม่มีปัญหา แต่ข้อเสียคือมันหนักครับ ต้องใช้โครงสร้างเหล็กที่แข็งแรงรองรับ ถ้าบ้านใครโครงไม่ดีพอ หรือช่างไม่เชี่ยว อาจเกิดปัญหาทรุดหรือรั่วซึมตามมาได้ ติดตั้งก็ใช้เวลามากกว่าวัสดุอื่น
ราคาวัสดุอย่างเดียวอาจอยู่ที่ 400–700 บาทต่อตารางเมตร แต่ถ้านับรวมโครงเสริมด้วยแล้วก็อาจแตะถึง 1,200 บาทได้เหมือนกันครับ ดังนั้นใครที่อยากได้หลังคาที่อยู่ยาว ๆ แบบไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ก็ควรลงทุนกับโครงสร้างให้ดีไปเลยครับ
- หลังคาโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) ถ้าใครชอบความโปร่งแสง ไม่อยากให้โรงรถดูอึดอัด อันนี้ตอบโจทย์เลยครับ จุดเด่นคือตัวแผ่นใสหรือกึ่งใส ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านได้ บ้านจะดูโปร่ง โล่ง ไม่มืดเหมือนหลังคาทึบแบบอื่น
เหมาะกับบ้านสมัยใหม่ที่เน้นดีไซน์โมเดิร์น แต่โพลีคาร์บอเนตก็มีจุดอ่อนนะครับ คือมันร้อนมากถ้าไม่เคลือบฟิล์มกันยูวี และอายุการใช้งานไม่ยาวเท่าแบบอื่น พอใช้ไปสัก 5-7 ปี แผ่นจะเริ่มเหลือง เปราะ แตกง่าย ซึ่งต้องเปลี่ยนใหม่
ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 700–1,000 บาทต่อตารางเมตร แล้วแต่ความหนาและคุณภาพของแผ่น ถ้าเลือกใช้ก็ต้องดูแลรักษาดี ๆ และติดตั้งโดยช่างที่มีประสบการณ์ เพราะโพลีคาร์บอเนตมีปัญหาเรื่องการขยายตัวตามอุณหภูมิ อาจทำให้รั่วซึมถ้าระยะยืดหดไม่เผื่อไว้
- หลังคาไฟเบอร์กลาส ตัวนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้วใช้งานได้ดีเลยครับ เป็นวัสดุโปร่งแสงคล้ายโพลีคาร์บอเนต แต่ไม่ร้อนเท่า และน้ำหนักเบากว่า ติดตั้งง่าย ทนแดดฝนได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว ด้วยความที่หน้าตามันอาจจะดูไม่หรู เพราะเนื้อวัสดุจะเห็นลายใยแก้วในแผ่นชัด ๆ คนที่ชอบความมินิมอลอาจจะไม่อินกับลุคนี้เท่าไหร่ แต่ข้อดีคือราคาพอ ๆ กับโพลีคาร์บอเนต แต่ทนต่อสารเคมี ความชื้น และไม่เหลืองเร็วเหมือนโพลีคาร์บอเนต ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 600–900 บาทต่อตารางเมตร ถือว่าเป็นทางเลือกกลาง ๆ สำหรับคนที่อยากได้หลังคาโปร่งแต่ไม่ร้อนจัดครับ
วัสดุ | จุดเด่น | ข้อเสีย | ราคาโดยประมาณ (บาท/ตร.ม.) |
เมทัลชีท | ถูก ติดตั้งง่าย | ร้อน เสียงดัง | 300–800 |
ไวนิล | เย็น เงียบ สวย | ราคาสูงกว่าปกติ | 800–1,200 |
ลอนคู่ | ทน เย็น เงียบ | หนัก ต้องโครงเสริม | 400–1,200 |
โพลีคาร์บอเนต | โปร่งแสง ทันสมัย | ร้อน อายุสั้น | 700–1,000 |
ไฟเบอร์กลาส | เบา ไม่ร้อนเท่าโพลี | ดูไม่หรู อายุการใช้งานกลางๆ | 600–900 |
สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนทำหลังคาโรงรถ
จริง ๆ แล้วการทำหลังคาโรงจอดรถมีเรื่องที่ต้องคิดและวางแผนมากกว่าที่คิดเยอะนะครับ ไม่ใช่ว่าแค่ซื้อวัสดุมาติดตั้งแล้วจบไป ทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันตั้งแต่เรื่องกฎหมายบ้านเรือน ความแข็งแรงของโครงสร้างบ้าน วัสดุที่จะเลือกใช้ รวมถึงการดูแลความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านและการเลือกผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้
ถ้าไม่เตรียมตัวดี ๆ ไม่ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ งานต่อเติมหลังคาโรงรถอาจกลายเป็นปัญหาที่ตามมาทีหลัง ทั้งเรื่องความเสียหาย ค่าใช้จ่ายเพิ่ม และความยุ่งยากอื่น ๆ วันนี้เลยจะมาแชร์ถึงสิ่งที่ควรคำนึงก่อนทำหลังคาโรงรถ แบบเข้าใจง่าย เพื่อจะได้ช่วยให้ทุกคนวางแผนกันได้ดีและไม่พลาดอะไรสำคัญ ๆ กันครับ
- กฎหมายควบคุมอาคาร เรื่องแรกที่ต้องนึกถึงเลยก็คือกฎหมายควบคุมอาคารบ้านเราครับ บ้านเราไม่ได้เป็นพื้นที่ส่วนตัวแบบ 100% เสมอไป เพราะมีกฎระเบียบของเทศบาลหรือเขตที่ดูแลเรื่องก่อสร้างและต่อเติมอาคารอยู่ ซึ่งหลายคนไม่รู้ครับว่าการต่อเติมหลังคาโรงจอดรถ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอาคาร ถ้าอยู่ในเขตเทศบาลหรือตามหมู่บ้านจัดสรร กฎหมายควบคุมอาคารอาจบังคับให้ต้องขออนุญาตต่อเติมก่อนด้วยซ้ำ
-
- ถ้าต่อเติมชิดเขตที่ดินเพื่อนบ้าน ต้องเว้นระยะตามกฎหมายไม่น้อยกว่า 50 ซม.
- ถ้าใช้วัสดุทึบที่ปิดแสงแดดมาก อาจต้องขออนุญาตต่อเติมตามแบบแปลน
- บางหมู่บ้านมีกฎระเบียบโครงการ เช่น ห้ามต่อเติมเกินแนวรั้ว
-
ดังนั้นข้อนี้ต้องจำให้ขึ้นใจเลยนะครับ ก่อนจะเริ่มทำหลังคาโรงรถ ขอแนะนำให้ไปสอบถามข้อมูลที่สำนักงานเขตหรือเทศบาลให้ชัดเจนก่อนว่าพื้นที่บ้านเราต้องปฏิบัติตามกฎอะไรบ้าง ต้องมีการยื่นขออนุญาตหรือไม่ และต้องมีแบบแปลนอะไรเข้ารับรองหรือเปล่า เรื่องพวกนี้ถ้าปล่อยผ่านไปแล้วเกิดปัญหา โดยเฉพาะในหมู่บ้านจัดสรรอาจเจอร้องเรียน แล้วต้องรื้อถอนหรือเสียค่าปรับด้วย เรียกได้ว่าหายนะเลยครับ ไม่คุ้มแน่นอนครับ
- เข้าใจโครงสร้างเดิมของบ้าน บ้านที่เราจะติดตั้งหลังคาโรงรถมีลักษณะยังไง รับน้ำหนักได้แค่ไหน หรือจะสามารถใช้โครงเหล็กหรือเสาแบบไหนในการยึดหลังคาได้บ้าง เพราะบางคนอยากทำหลังคาแบบต่อเติมติดกับตัวบ้านโดยไม่ต้องมีเสารองรับ แต่ถ้าโครงสร้างผนังบ้านไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้เกิดปัญหารอยร้าวหรือหลังคาไม่มั่นคงได้
อย่างที่เคยบอกไปครับว่าการต่อเติมหลังคาโรงรถไม่ได้เหมือนกับแค่เอาแผ่นเหล็กหรือวัสดุอื่นมาปิดเฉย ๆ แต่ต้องคำนึงถึงน้ำหนักของวัสดุที่เลือกใช้ด้วย หลังคาบางประเภทมีน้ำหนักมาก อาจต้องเสริมโครงสร้างเหล็กหรือฐานรากเพิ่ม ซึ่งถ้าไม่ศึกษาหรือไม่เช็กดี ๆ ก็เสี่ยงทำให้บ้านเสียหายหรือหลังคาพังได้
ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาช่างที่มีประสบการณ์จริง หรือวิศวกรที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโครงสร้างบ้าน เพื่อให้เขามาตรวจสอบและประเมินก่อนทำ จะได้ไม่ต้องมานั่งซ่อมทีหลัง ซึ่งทั้งแพงและวุ่นวายมากครับ
- เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพราะเรื่องวัสดุที่ใช้ทำหลังคาเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะหลังคาโรงรถเราไม่ได้ทำบ่อย ๆ และมันต้องใช้งานหนักเจอทั้งแดดจัด ฝนตก และลมแรงทุกวัน ถ้าเลือกวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ หรือถูกเกินไป ก็เสี่ยงเจอปัญหาเรื่องหลังคารั่ว หลังคาผุกร่อน หรือเสียงดังเวลาฝนตก ซึ่งนอกจากจะทำให้เราไม่สบายใจแล้ว ยังต้องเสียเงินซ่อมบ่อย ๆ อีกด้วยครับ
วัสดุแต่ละชนิดก็เหมาะกับความต้องการและงบประมาณที่ต่างกันไป เช่น เมทัลชีทที่ราคาถูก แต่เสียงดังและร้อน ในขณะที่วัสดุอย่างโพลีคาร์บอเนตจะโปร่งแสงแต่ราคาแพงกว่า แต่ถ้าคิดจะทำหลังคาโรงรถให้คุ้มระยะยาว แนะนำให้เลือกวัสดุที่มีมาตรฐาน มีฉนวนกันความร้อนถ้าจำเป็น และติดตั้งโดยช่างที่ชำนาญ รับรองว่าหลังคาจะใช้งานได้ดีและอยู่กับบ้านเราไปนานแบบยาว ๆ เลยครับ
- แจ้งเพื่อนบ้านก่อนต่อเติม เรื่องนี้อาจจะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องเทคนิค แต่ผมบอกเลยว่าเป็นเรื่องสำคัญมากครับ การแจ้งเพื่อนบ้านก่อนเริ่มงานต่อเติมหลังคาโรงรถ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างที่อาจมีเสียงดัง มีรถเข้ามาทำงานหรือการเปลี่ยนแปลงทิศทางน้ำฝน มันจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านเราและเพื่อนบ้านดีขึ้นมาก
เพื่อนบ้านหลายคนอาจจะไม่ซีเรียสถ้าเราแจ้งล่วงหน้า และทำงานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ถ้าไม่แจ้งเลยแล้วงานก่อสร้างเสียงดัง ฝุ่นฟุ้ง หรือมีน้ำฝนไหลไปบ้านเขา อาจจะเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันได้ ที่หนักกว่านั้นอาจมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น จนทำให้เราต้องหยุดงานและแก้ไขปัญหาทีหลังซึ่งยุ่งยากและเสียเงินเพิ่ม
แนะนำว่าก่อนจะลงมือทำลองเดินไปแจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบด้วยตัวเอง สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าจะมีการต่อเติมหลังคาโรงรถ มีเสียงดังบ้างช่วงสั้น ๆ และขอความร่วมมือหน่อย แต่ทางที่ดีที่สุดควรทำเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรไว้ชัวร์สุดครับ แค่นี้ก็ช่วยลดปัญหา สร้างความเข้าใจที่ดีได้แล้วครับ
- มองหาผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เรื่องของการเลือกผู้รับเหมาหรือช่างทำหลังคาโรงรถ อย่าเลือกแค่เพราะช่างหน้าตาดี คุยถูกคอ หรือเพราะความสนิทกับช่างเด็ดขาด! เพราะงานต่อเติมถ้าเลือกผิดคน นอกจากจะได้งานไม่ดี เสียเวลา เสียความรู้สึกแล้ว ยังอาจเจอปัญหาวัสดุไม่ตรงตามที่ตกลง ใช้วัสดุถูก ๆ แถมราคาก็แพงเกินจริง หรือจ้างแล้วทิ้งงานไม่ทำให้เสร็จตามกำหนดอีกต่างหากครับ
ดังนั้นอย่าหลงเชื่อแค่ราคาถูกอย่างเดียว ต้องดูประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ มีรีวิว มีผลงานจริง หรือถ้าเป็นไปได้ ขอคำแนะนำจากคนรู้จักที่เคยใช้บริการแล้ว จะช่วยให้เราเลือกได้มั่นใจขึ้นเยอะ อีกอย่างคือควรทำสัญญาเขียนระบุรายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งเรื่องวัสดุ ราคา ระยะเวลา และเงื่อนไขการรับประกันงาน เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต บอกได้เลยครับว่าถ้าได้ช่างดีงานก็ออกมาดี บ้านเราก็อยู่สบายและปลอดภัยขึ้นแน่นอนครับ
สรุปง่าย ๆ ก่อนจะทำหลังคาโรงรถอย่าคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้เสร็จเร็ว หรือถูกที่สุด เพราะถ้าข้ามเรื่องพวกนี้ไป ปัญหาจะตามมาอีกเยอะทั้งเรื่องกฎหมาย โครงสร้าง เพื่อนบ้าน และคุณภาพของงาน เราต้องวางแผนดี ๆ เลือกวัสดุที่เหมาะสม เข้าใจกฎหมายและโครงสร้างบ้าน รวมถึงเลือกช่างที่ไว้ใจได้ แค่นี้ก็ช่วยให้หลังคาโรงรถที่ต่อเติมออกมาดี ใช้งานได้นาน และไม่สร้างปัญหาตามมาแน่นอนครับ
เคล็ดลับลดต้นทุนในการทำหลังคาโรงรถ
ก่อนจะเริ่มทำหลังคาโรงจอดรถหลายคนอาจมีภาพในหัวไว้แล้วว่าจะทำออกมาให้ดูดี แข็งแรง ใช้งานได้คุ้มค่า แต่พอเริ่มคุยกับช่าง หรือไปดูราคาวัสดุจริง ๆ เข้า หลายคนก็เริ่มใจหายครับ เพราะราคามันอาจไม่ได้เบาอย่างที่คิด โดยเฉพาะถ้าอยากได้วัสดุดี ๆ งานเนี้ยบ ๆ ยิ่งถ้าไม่ได้วางแผนมาก่อน หรือไม่มีประสบการณ์เรื่องงานก่อสร้างเลยอันนี้ก็อาจจะโดนบวกค่าโน่นค่านี่กว่างานจะจบงบก็พุ่งสูงแบบไม่รู้ตัวไปแล้ว
จริง ๆ แล้ว การทำหลังคาโรงจอดรถให้ได้คุณภาพ ในราคาที่ประหยัด มันก็มีทางเป็นไปได้นะครับ แค่ต้องรู้เทคนิค รู้ว่าจะลดตรงไหนให้คุ้มค่า และตรงไหนที่ควรจ่ายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทีหลัง เพราะบางอย่างถ้าเราพยายามประหยัดมากเกินไป มันอาจย้อนกลับมาเป็นค่าใช้จ่ายซ่อมแซมที่แพงกว่างานใหม่ด้วยซ้ำ วันนี้เลยจะมาแชร์เคล็ดลับการลดต้นทุนในการทำหลังคาโรงจอดรถแบบง่าย ๆ แต่ได้ผลจริงเป็นแนวทางที่คนทำบ้านหรือเจ้าของบ้านสามารถนำไปใช้ได้เลยครับ
-
เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับงบประมาณ
เรื่องวัสดุเป็นสิ่งที่กินงบเยอะที่สุดในการทำหลังคาโรงรถครับ เพราะมันไม่ได้มีแค่แผ่นหลังคาอย่างเดียว ยังรวมไปถึงโครงเหล็ก สีที่ใช้ทากันสนิม อุปกรณ์ติดตั้ง และฉนวนกันความร้อน ดังนั้นการเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับงบเป็นเรื่องที่ควรคิดตั้งแต่แรก ไม่ใช่เลือกแต่ของแพงไว้ก่อน เพราะสุดท้ายอาจเกินงบจนต้องไปตัดเรื่องสำคัญอื่น ๆ ออก
ถ้าเราต้องการประหยัด แต่ยังอยากได้ความคงทน เมทัลชีทก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ เพราะราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ติดตั้งเร็ว และยังมีแบบที่บุฉนวนกันความร้อนในตัวด้วย ซึ่งถ้าจัดงบให้ดี เราสามารถเลือกแผ่นเมทัลชีทแบบกันร้อนเฉพาะโซนที่แดดลงจัด แล้วใช้แบบธรรมดาในโซนที่ไม่โดนแดดมากก็ช่วยประหยัดได้อีกทาง
อีกวัสดุที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ความสวยและราคาไม่แรงเกินไปคือหลังคาไวนิล ครับ ทนแดดดี ดูเรียบหรู น้ำไม่รั่ว ไม่เป็นสนิม แต่ข้อเสียคือรับน้ำหนักได้น้อย ต้องเลือกโครงสร้างที่เหมาะสมด้วย ยังไงลองเปรียบเทียบแต่ละแบบดูก่อน
อย่าเลือกเพียงเพราะเขาบอกว่าดีสุดนะครับ เพราะของที่ดีที่สุดอาจไม่เหมาะกับงบเราก็ได้ครับ ให้หลีกเลี่ยงวัสดุที่ดูหรูแต่ราคาแพงเกินความจำเป็น เช่น กระเบื้องหลังคาหนัก ๆ หรือโพลีคาร์บอเนตเกรดพรีเมียม ถ้างบจำกัดจริง ๆ วางแผนพื้นที่ให้ชัดเจน เลือกขนาดและจำนวนวัสดุให้พอดี จะได้ไม่เหลือทิ้ง
-
เลือกโครงสร้างที่ติดตั้งง่าย
อีกจุดที่ช่วยลดต้นทุนได้ชัดเจนคือโครงสร้างครับ โดยเฉพาะโครงหลังคาที่ใช้รองรับแผ่นหลังคา ถ้าเลือกโครงแบบเหล็กกล่องทั่วไป ต้องใช้แรงงานและเวลาตัดเชื่อมค่อนข้างมาก ค่าแรงก็สูงตามไปด้วย แต่ถ้าเราเลือกใช้ โครงเหล็กสำเร็จรูป ที่มีการออกแบบและตัดขนาดมาเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถลดเวลาในการติดตั้งได้เยอะมาก ทำให้ลดค่าแรง ลดเวลา ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด และแน่นอนว่าลดต้นทุนได้จริง
โครงเหล็กสำเร็จรูปในปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบครับ บางรุ่นมีระบบล็อกหรือสวมประกอบไว้ในตัว ไม่ต้องเชื่อม ลดปัญหาสนิม แถมงานออกมาดูเรียบร้อยกว่าการเชื่อมแบบดั้งเดิมด้วย แค่ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญประกอบตามคู่มือ หรือแบบที่เราต้องการก็จบงานได้สวยเลยครับ
พยายามเลี่ยงการใช้โครงสร้างที่ต้องทำงานซับซ้อน เช่น โครงไม้ หรือโครงปูนแบบเทหล่อ เพราะค่าแรงสูง และใช้เวลามาก ถ้าเลือกโครงสร้างที่ง่ายต่อการติดตั้ง ก็จะทำให้ค่าแรงถูกลงงานเสร็จเร็ว และลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการทำงานด้วย
-
ตรวจสอบโปรโมชั่นหรือส่วนลดจากร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
ไม่ต้องอายที่จะต้องเลือกเยอะครับ ยิ่งช็อปฉลาด ลดงบได้อีกเยอะ เชื่อไหมครับว่าแค่รู้จักหาข้อมูล ก็ช่วยประหยัดงบแล้วครับ ใครที่คิดว่าร้านวัสดุก่อสร้างจะมีราคาคงที่เสมอ บอกเลยว่าพลาดครับ จริง ๆ แล้วร้านวัสดุส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่นลดราคาวัสดุ 10-20% หรือแถมโครงหลังคาเมื่อซื้อแผ่นหลังคาตามจำนวน เรียกได้ว่ามีโปรหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกเดือน ทั้งลดราคา ของแถม หรือแม้แต่จัดชุดโปรโมชั่นหลังคา + โครงเหล็ก + ฉนวน ในราคาที่คุ้มกว่าไปซื้อแยกเป็นชิ้น ๆ
อย่าลืมเทียบราคาหลายร้าน ทั้งร้านในพื้นที่กับออนไลน์ ยิ่งถ้าเป็นร้านประจำลองเจรจาขอราคาพิเศษ หรือส่วนลดเงินสดกับร้านเพิ่มได้ครับ เพราะบางร้านเขายินดีลดราคาให้ถ้าเราเป็นลูกค้าเงินสด หรือซื้อครบตามจำนวนขั้นต่ำที่เขากำหนดไว้
-
จ้างช่างที่มีประสบการณ์และรับประกันงาน เพื่อป้องกันปัญหาหลังการติดตั้ง
ฟังดูเหมือนไม่เกี่ยวกับเรื่องประหยัด แต่จริง ๆ แล้วการจ้างช่างที่ดี คือ แรร์ไอเทมในการลดต้นทุนในระยะยาวได้ดีที่สุดเลยครับ เพราะถ้าไปจ้างช่างราคาถูกแต่ฝีมือไม่ถึง อาจเจอปัญหางานไม่เรียบร้อย น้ำรั่ว รอยเชื่อมไม่แน่น ติดตั้งเบี้ยว โครงสร้างเอียง ซึ่งถึงตอนนั้นเราก็ต้องเสียเงินซ่อม หรือไม่ก็รื้อทำใหม่ ซึ่งแพงกว่าทำให้จบตั้งแต่แรกเยอะครับ
ช่างที่มีประสบการณ์จะช่วยเราเลือกวัสดุที่เหมาะสม ไม่ใช่ของถูกที่สุด แต่เป็นของที่คุ้มค่าที่สุดตามงบประมาณ อีกอย่างคือเขาจะติดตั้งอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีมาตรฐาน ช่วยให้โครงสร้างหลังคาอยู่ได้ทนทาน ไม่ต้องซ่อมบ่อย อย่าลืมว่างานหลังคาโรงรถเป็นงานที่เจอแดดเจอฝนทุกวัน ถ้างานไม่ดีพอปัญหามันจะค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องแบกรับแบบไม่รู้จบครับ
วิธีเลือกช่างเพื่อลดต้นทุนระยะยาว อย่างแรกต้องขอชมผลงานเก่า หรือรีวิวจากลูกค้าเดิม ดูว่าวางแผนงานชัดเจนไหม มีแบบหรือ BOQ ให้ไหม มีการรับประกันงานหรือเปล่า มีใบเสนอราคาชัดเจน ไม่กำกวมกลางทาง แค่นี้เองครับ
สรุปก็ คือ การประหยัดงบในการทำหลังคาโรงจอดรถ ไม่ได้หมายถึงการตัดงบแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เป็นการวางแผนให้ฉลาดครับ เลือกวัสดุให้เหมาะสมกับงบ เลือกโครงสร้างที่ติดตั้งง่ายใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่นและจ้างช่างที่ไว้ใจได้ ถ้าทำได้ครบทั้ง 4 ข้อนี้ยังไงก็ได้งานที่ดี คุ้มค่า และไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนในอนาคตแน่นอนครับ
เลือกช่างมืออาชีพทําหลังคาโรงรถดีกว่าอย่างไร?
สำหรับใครที่กำลังคิดจะต่อเติมหลังคาโรงจอดรถที่บ้าน ไม่ว่าจะเพิ่งซื้อบ้านใหม่หรืออยู่บ้านมานานแล้วต้องบอกเลยครับว่าช่างที่เลือกจะเป็นปัจจัยสำคัญเลยครับว่าจะจบงานสวย ไม่ปวดหัว หรือจะกลายเป็นงานบานปลาย ต้องรื้อ ต้องซ่อม ต้องเสียเงินซ้ำอีกรอบ
พูดแบบนี้อาจดูเหมือนน่ากลัว แต่เป็นเรื่องจริงครับ เพราะหลายคนมักคิดว่างานเล็ก ๆ แค่นี้ ไม่ต้องถึงกับหาช่างเก่งหรอก เดี๋ยวหาเอาแถวบ้านก็ได้ราคาถูกดี ซึ่งถ้าโชคดี เจอช่างดี งานจบก็ถือว่าโชคเข้าข้างครับ แต่ถ้าเจอช่างที่ไม่เป็นงาน หรือไม่รับผิดชอบ พังครับ เสียเวลา เสียเงิน เสียอารมณ์แบบครบสูตรเลยทีเดียว ดังนั้นมาดูกันครับว่าทำไมการเลือกช่างมืออาชีพถึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้เราเซฟได้ในระยะยาวครับ
-
งานจบไว ไม่แก้ซ้ำ ไม่ช้ำใจ ไม่ยืดเยื้อ
ช่างที่มีประสบการณ์ มักจะรู้ขั้นตอนทุกอย่างชัดเจน วัดพื้นที่ รู้มุมลาด รู้จุดยึดโครง ไม่ต้องให้เราคอยตามหรือกังวลว่างานจะผิดพลาด พอมีการวางแผนที่ดี งานก็เดินไว ติดตั้งเสร็จภายในระยะเวลาที่คุยกันไว้ ไม่ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีกแบบช่างสมัครเล่นบางเจ้า
-
คุมงบได้ ไม่บานปลาย
เวลาเราทำหลังคาโรงรถ สิ่งที่น่าปวดหัวที่สุด คือ งบบาน เพราะช่างไม่แจ้งรายละเอียดให้ครบ หรือมีของขาดของเกินให้เราซื้อเพิ่ม แต่ช่างมืออาชีพเขาจะให้ใบเสนอราคาชัดเจนครับว่า ใช้วัสดุอะไร ยี่ห้อไหน ขนาดเท่าไหร่ ค่าแรงเท่าไหร่ มีรวมอะไรบ้าง ถ้ามีงานเพิ่ม จะคิดเพิ่มแค่ไหน แถมบางเจ้าที่มีความเป็นมืออาชีพเขายังช่วยแนะนำว่าตรงไหนตัดได้ ตรงไหนต้องเพิ่ม ช่วยเราคุมงบได้ดีขึ้นไปอีก
-
งานแข็งแรง ปลอดภัย อยู่ได้นาน
ช่างมืออาชีพจะเข้าใจโครงสร้าง ต่อเติมแบบไม่ทำร้ายบ้าน เพราะถ้าเราใช้วัสดุดี แต่ติดตั้งไม่ดี ยังไงก็พังครับ แต่ถ้าช่างมีฝีมือ ต่อให้ใช้งบกลาง ๆ เขาก็ทำให้ออกมาแข็งแรง ทนแดดทนฝนได้แบบไม่ต้องซ่อมทุกปี อาศัยประสบการณ์จริงถึงจะทำได้ ไม่ใช่แค่ใครถือเครื่องมือเป็นก็ทำได้ด้วยครับ
-
รับผิดชอบงาน มีประกันหลังงานเสร็จ
ช่างมืออาชีพจะไม่หนีงานครับ และที่สำคัญที่สุดคือเขากล้ารับประกัน ว่าถ้ามีปัญหา เขาจะกลับมาแก้ให้ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เราอุ่นใจ เพราะงานต่อเติมบางอย่าง พอเสร็จแล้วอาจจะยังไม่เห็นปัญหา ต้องรอฝนตกหนัก หรือลมแรงถึงจะรู้ ซึ่งถ้าช่างหายตัวไปแล้วติดต่อไม่ได้นี่คือปัญหาใหญ่เลยครับ
-
ให้คำแนะนำ ช่วยออกแบบให้เหมาะสมกับงบจริง ไม่บวกราคาเกิน
บางครั้งเราไม่รู้หรอกครับว่าโรงรถของเราเหมาะกับโครงแบบไหน ใช้หลังคาชนิดไหนถึงจะทนแดดและฝนได้ดี หรือควรเจาะพื้นแบบไหนเพื่อระบายน้ำ แต่ช่างมืออาชีพจริง ๆ จะช่วยเราออกแบบให้เหมาะกับบ้านของเราจริง ๆ ไม่ใช่แค่ลอกแบบบ้านข้างๆ มาแปะไว้ครับ
ทำไมต้องเลือก ADDZestHome ในการทำหลังคาโรงรถของคุณ?
ถ้าคุณกำลังมองหาทีมงานมืออาชีพ ที่ไม่ใช่แค่ติดตั้งหลังคาโรงรถธรรมดาๆ แต่เน้นคุณภาพ ความคุ้มค่า และบริการครบวงจร ต้องบอกเลยว่า ADDZestHome นี่แหละครับตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพราะการต่อเติมบ้านไม่ใช่แค่การเพิ่มพื้นที่ใช้สอย แต่คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวอย่างแท้จริงครับ
ทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการออกแบบ และติดตั้งหลังคาโรงรถทุกประเภท เราผ่านงานติดตั้งหลังคาโรงจอดรถมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบโครงเหล็กเมทัลชีท หลังคาโพลีคาร์บอเนต หรือแม้แต่หลังคากระเบื้องที่ต้องละเอียดในการติดตั้ง ทุกคนเป็นมืออาชีพและเข้าใจรายละเอียดเชิงเทคนิคจริง ๆ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่างานจะออกมาแข็งแรง ปลอดภัย แถมยังได้ดีไซน์สวยงาม
วัสดุคุณภาพสูงที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ที่นี่เราให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน อย่างเลือกใช้โครงหลังคาเหล็กกล่องหนา 2.3 มม. ที่ได้มาตรฐาน มอก. เพื่อความแข็งแรง รองรับหลังคาและโครงสร้างได้อย่างมั่นคง โครงเหล็กกล่องยังให้ความสวยเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอก และสามารถออกแบบให้เข้ากับสไตล์ของบ้านได้หลากหลายพร้อมทาด้วยสีรองพื้นกันสนิมคุณภาพสูง เช่น TOA เพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อนโดยเฉพาะจุดที่ต้องรับฝนหรือละอองน้ำสีรองพื้นจะช่วยให้สีจริงติดทนและดูสวยงามยาวนาน ระบบแปและจันทัน วางอย่างมีระยะเพื่อรองรับน้ำหนักหัวใจของโครงสร้างหลังคาการวางระยะที่เหมาะสมช่วยให้หลังคาไม่แอ่นตัวและรับน้ำหนักได้ดี โดยเฉพาะหากเลือกใช้หลังคาเมทัลชีทที่มีน้ำหนักเบาการจัดวางแปอย่างถูกต้องจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้โครงหลังคา พร้อมติดตั้งแผ่นหลังคาเมทัลชีท BlueScope Zacs บุฉนวนกันร้อน PU Foam หนา 1 นิ้ว ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพอากาศและช่วยลดอุณหภูมิใต้หลังคา ไม่ให้รถยนต์สะสมความร้อนในช่วงกลางวัน เพิ่มลูกเล่นด้วยการติดไม้ระแนง Shera ที่บริเวณด้านข้างหรือฝ้าของโรงจอดรถ ช่วยกรองแสงแดดเพิ่มความเป็นส่วนตัวและทำให้โรงจอดรถดูมีดีไซน์ สวยเรียบแบบโมเดิร์น ระแนง Shera ยังมีความทนทาน ไม่ผุ ไม่บิดตัว และดูแลรักษาง่าย นอกจากจะเลือกหลังคาที่ดีแล้วรางน้ำฝนก็สำคัญไม่แพ้กันครับสแตนเลส 304 คือคำตอบครับถ้าคุณอยากลงทุนครั้งเดียวจบ ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องสนิมหรือรั่วซึมบ่อยๆ ไม่เป็นสนิม 100% อายุการใช้งานยาวนานมากและเหมาะกับบ้านดีไซน์สมัยใหม่อีกด้วยครับ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้โรงจอดรถของคุณดูดี ใช้งานง่าย ทนทาน และช่วยเติมเต็มบ้านให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นครับ
บริการให้คำปรึกษาฟรี พร้อมประเมินราคาก่อนเริ่มงาน เราเข้าใจดีว่าการทำหลังคาโรงรถอาจเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับหลายคน ทางทีมจึงพร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สามารถสอบถามทุกเรื่อง ตั้งแต่วัสดุที่เหมาะสม การวางแผนงบประมาณ ไปจนถึงแนวทางการต่อเติมที่เหมาะกับบ้าน และเราจะจัดทำใบราคาให้อย่างชัดเจน เพื่อให้สบายใจว่าไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
รับประกันงานทุกโครงการ พร้อมบริการหลังการขายที่มั่นใจได้ เพราะเราเข้าใจว่าความมั่นใจของเจ้าของบ้านคือหัวใจของงานทุกโปรเจกต์ มีการรับประกันผลงานหลังจบงาน 1 ปี พร้อมดูแลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ไม่ทอดทิ้งลูกค้า และไม่ปล่อยให้คุณต้องแก้ไขปัญหาคนเดียว หมดกังวลกับปัญหาช่างทิ้งงาน อัปเดตงานทุกระยะการต่อเติม เจ้าของบ้านสามารถดูความคืบหน้างานได้ผ่านทางไลน์
หากคุณกำลังจะต่อเติมบ้าน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มตรงไหนดี หรืออยากได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้จริง ติดต่อ ADDZestHome เพื่อขอคำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตลอด พร้อมจบทุกปัญหาจุกจิก งบไม่บานปลาย ได้งานตรงปก เพื่อขอบคุณและตอบแทนที่ให้โอกาสเราต่อเติมบ้านในฝันของคุณให้เป็นจริงครับ