เช็คลิสต์ที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัวปี 2025 งบประมาณ อุปกรณ์ และแบบที่ใช่

เช็คลิสต์ที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัว งบประมาณ อุปกรณ์ และแบบที่ใช่

การต่อเติมห้องครัวเป็นการลงทุนที่หลายคนอยากทำ เพราะห้องครัวไม่ได้เป็นแค่พื้นที่สำหรับทำอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการพบปะ พูดคุย และใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นต่อเติมห้องครัว เราควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้การต่อเติมเป็นไปอย่างราบรื่นตามแผนที่วางไว้ มาดูเช็คลิสต์ที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัวปี 2025 เพื่อให้ได้ห้องครัวในแบบที่ใช่ ตอบโจทย์ ตรงตามไลฟ์สไตล์ คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป ไม่ว่าจะต้องการขยายพื้นที่ เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน หรือปรับเปลี่ยนดีไซน์ การตั้งงบประมาณที่ชัดเจน เลือกอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และออกแบบห้องครัวให้เหมาะสมตรงกับการใช้งานมากที่สุด

การทำเช็คลิสต์ล่วงหน้าจะช่วยให้เราเห็นภาพแนวทางชัดเจน ทั้งการวางงบประมาณ การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับดีไซน์งาน ได้ห้องครัวที่คุ้มค่า ปลอดภัยและใช้งานได้ดีในระยะยาว

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนต่อเติมห้องครัว ตั้งแต่ขนาดของพื้นที่สำหรับการต่อเติม รูปแบบครัวที่ต้องการ เคาน์เตอร์ครัว กฎหมายต่อเติมบ้านที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่รายละเอียดยิบย่อยอื่น ๆ เพื่อให้ได้ห้องครัวที่ใช้งานได้ดีและสวยงามตามต้องการ เพียงแค่ทำการบ้านตามนี้การสร้างห้องครัวในฝันก็ไม่ได้ยากเกินไปแล้วครับ ดังนั้นในบทความนี้ “ADDZestHome” จะมาแชร์ถึงเช็คลิสต์สำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนต่อเติมห้องครัว เพื่อให้การต่อเติมออกมาสวยถูกใจและคุ้มค่าที่สุดครับ

เช็คลิสต์ที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัว

การต่อเติมห้องครัวเป็นอีกหนึ่งโครงการใหญ่ที่หลายคนอยากทำ แต่ถ้าไม่เตรียมตัวให้ดีก็อาจจะเกิดปัญหาได้ งบประมาณบานปลาย หรืออาจได้ห้องครัวที่ไม่ตรงปกไม่ตรงกับความต้องการที่ตั้งใจไว้เลยก็ได้ครับ  จะดีกว่าไหมถ้าคุณมีเช็คลิสต์ที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัว เข้ามาช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน 

ดังนั้น “ADDZestHome” ผู้นำด้านการต่อเติมที่มีประสบการณ์ในการรับต่อเติมครัวจะขอมาแชร์เช็คลิสต์ที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัวให้ทุกคนได้เตรียมแผนรับมือ ตั้งแต่เรื่องงบประมาณ การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ ไปจนถึงการออกแบบให้ห้องครัวใช้งานได้ดีและการเซอร์วิสหลังใช้งานไม่ยุ่งยาก ช่วยให้ได้ห้องครัวที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริงตามที่ตั้งใจไว้กันครับ

วางแผนก่อนลงมือเสมอ 

อันดับแรกต้องเลือกสไตล์ห้องครัวที่ชอบก่อนครับ กำหนดความต้องการโดยคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกตามรูปแบบของเรา แล้วก็มาเริ่มวางแผนงบประมาณให้ชัดเจนตั้งแต่แรก ว่ามีงบเท่าไหร่ เพื่อป้องกันการใช้จ่ายเกินงบ และลดความเสี่ยงจากการปรับแผนกลางคัน จากนั้นจึงเริ่มลิสต์รายการสิ่งของที่ต้องการ พวกวัสดุที่ต้องการใช้ เพื่อให้รู้ว่าต้องใช้งบประมาณในส่วนไหนบ้าง แล้วจึงเริ่มลงมือเปรียบเทียบราคาโปรโมชั่นจากหลาย ๆ แหล่งเพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด และอย่าลืมสอบถามการรับประกันหลังการขายทุกครั้งนะครับ

เตรียมตัวรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

อาจมีค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นระหว่างต่อเติมได้เสมอครับ เช่น ค่ารื้อถอน หรือค่าแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง การปรับเปลี่ยนแบบระหว่างการดำเนินงาน ค่าขนส่งวัสดุ ควรต้องเตรียมเงินสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยนะครับ

ตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับ

ตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการต่อเติม ข้อกำหนดเรื่องความปลอดภัย หากการต่อเติมบ้านเข้าข่ายตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเกิน 5 ตร.ม. หรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบ้าน จะต้องขออนุญาตจากสำนักงานเขต หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ก่อนเริ่มดำเนินการครับ

เลือกวัสดุที่ทนทาน เหมาะสมกับงบประมาณ 

เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานในห้องครัว อาจไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป เพราะวัสดุราคาถูกก็มีคุณภาพดีได้เหมือนกัน แต่หากวัสดุที่เล็งไว้ในใจมีราคาสูงเกินงบที่ตั้งไว้ ให้ลองมองหาวัสดุที่เป็นทางเลือกอื่น เช่น แทนที่จะปูพื้นด้วยหินอ่อน อาจจะใช้กระเบื้องลายหินอ่อนแทนได้ครับ ข้อสำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ใช้งานภายนอกต้องเลือกวัสดุที่ทนแดด ทนฝน กันน้ำ ไม่ลื่น ใช้งานภายในต้องเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรค

คำนึงถึงการระบายอากาศ

หนึ่งในปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษครับ เพราะห้องครัวมักจะเต็มไปด้วยความร้อน กลิ่นจากการทำอาหาร หรือความชื้นจากการซักล้าง ซึ่งหากระบายอากาศได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และ ใช้งานไม่สะดวกครับ

ออกแบบและวางแผนการต่อเติม 

หากคุณไม่มีความรู้ด้านการออกแบบ ควรปรึกษาสถาปนิกหรือนักออกแบบ เพื่อช่วยออกแบบห้องครัวให้ตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นครัวไทยหรือครัวฝรั่ง หรือออกแบบให้เข้ากับรูปแบบบ้านเดิม เพราะการออกแบบที่ดีจะช่วยให้การต่อเติมบ้านมีความสวยงามและใช้งานได้จริงในระยะยาวครับ 

เลือกผู้รับเหมา 

ขอใบเสนอราคาจากช่างหลาย ๆ เจ้า เพื่อเปรียบเทียบราคา รายละเอียดงาน เปรียบเทียบสเปควัสดุที่ใช้ก่อสร้าง นัดสำรวจหน้างาน คุยความต้องการให้ครบถ้วน ที่สำคัญอย่าลืมดูรีวิวจากลูกค้าคนอื่น เพื่อประกอบการตัดสินใจ และต้องทำสัญญาให้ชัดเจนระบุรายละเอียดของงาน ราคา และระยะเวลาในการทำงานให้เรียบร้อยก่อนจ่ายเงินด้วยนะครับ 

หากใครไม่อยากวัดดวง กลัวช่างเท กลัวงานไม่เนี้ยบแนะนำให้ใช้บริการจาก“ADDZestHome” เราให้บริการครบวงจร เพราะเราเป็นผู้นำด้านการต่อเติมบ้านที่ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ที่ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานมาแล้วนับไม่ถ้วน ในการต่อเติมพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้บ้านคุณ 

ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ

หากติดตามโปรโมชั่นหรือส่วนลดจากร้านค้าต่าง ๆ จะสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นเยอะเลยครับ หรือใครที่ไม่ซีเรียสเรื่องสินค้ามือสอง อาจลองมองหาเฟอร์นิเจอร์มือสองเป็นทางเลือกครับ

เมื่อรู้ก่อนต่อเติมห้องครัวแล้ว ก็ต้องสังเกตการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

เมื่อรู้ก่อนต่อเติมห้องครัวแล้ว ก็ต้องสังเกตการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องยกให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ครับ การสังเกตว่าการต่อเติมได้มาตรฐานหรือไม่นั้น สามารถทำได้จากหลายจุดสำคัญ เช่น ตรวจสอบโครงสร้างว่ามั่นคงหรือไม่ การเดินระบบไฟฟ้าและน้ำ ต้องปลอดภัยและมีคุณภาพ ระบบระบายอากาศและแสงสว่างที่เหมาะสมเพื่อให้บ้านไม่อับชื้น การติดตั้งประตูและหน้าต่างต้องแน่นหนาไม่มีช่องว่าง และพื้นกับผนังต้องเรียบไม่มีรอยแตกร้าวสุดท้ายคือการตรวจเช็คหลังคา เพื่อป้องกันการรั่วซึม ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าส่วนต่อเติมมีมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการใช้งานในระยะยาว

การต่อเติมห้องครัวไม่ใช่แค่การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับตัวบ้าน แต่ยังเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความทนทานของโครงสร้างในระยะยาวอีกด้วยครับ จำเป็นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยตั้งแต่โครงสร้างพื้นดั้งเดิมแข็งแรงพร้อมให้ต่อเติมได้เลยหรือไม่ ไปจนถึงระบบไฟฟ้าและน้ำ เพราะบ้านที่สร้างแบบวางแผนเพื่อรองรับการต่อเติม จะช่วยให้การต่อเติมง่ายขึ้นเยอะครับ มั่นใจได้ว่าไม่เพียงแต่บ้านจะสวยและใช้งานได้ดี แต่ยังปลอดภัยและมั่นคง

ต้องรู้ขนาดของพื้นที่ที่ใช้ต่อเติม

ก่อนที่เราจะลงมือต่อเติมจริงก็ต้องคิดคำนวณให้ดี ว่าพื้นที่ที่จะใช้ต่อเติมนั้นมีขนาดเท่าไหร่ เพราะห้องครัวไม่ได้เป็นแค่ที่สำหรับทำอาหาร แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เราจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเตรียมอาหารและทำกิจกรรมอื่น ๆ อีกด้วยนะครับ แน่นอนว่าเราคงไม่อยากอยู่ในครัวที่แคบและอึดอัดใช่ไหมครับ โดยทั่วไปแล้วขนาดของห้องครัวที่จะต่อเติมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของบ้าน ความต้องการในการใช้งาน หรือแม้กระทั่งงบประมาณที่มี

สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัดอาจจะเลือกห้องครัวขนาดเล็กที่มีฟังก์ชันครบ หรือถ้ามีพื้นที่มากขึ้นมาหน่อยก็สามารถทำห้องครัวใหญ่ ๆ ที่สามารถจัดโซนต่าง ๆ ให้ใช้งานสะดวก เป็นระเบียบมากขึ้น แน่นอนว่าการคำนวณขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมหลังจากคำนวณระยะร่นแล้ว จะช่วยให้การต่อเติมห้องครัวนั้นลงตัว และตอบโจทย์การใช้งานจริงได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัสดุ การจัดวางอุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งการแบ่งโซนครัว โซนซักล้าง และออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ขนาดห้องครัวที่แนะนำโดยทั่วไป

  • ห้องครัวขนาดเล็ก พื้นที่ประมาณ 6-10 ตร.ม. เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด เช่น บ้านทาวน์โฮมหรือคอนโดมิเนียมที่ต้องการพื้นที่ทำอาหารพอประมาณ สามารถจัดวางอุปกรณ์พื้นฐานได้
  • ห้องครัวขนาดกลาง พื้นที่ประมาณ 12-20 ตร.ม. เหมาะสำหรับบ้านทั่วไปที่มีพื้นที่พอสมควร โดยสามารถจัดพื้นที่เตรียมอาหาร ตู้เก็บของ ซิงค์ล้างจาน และเครื่องใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น
  • ห้องครัวขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่มากกว่า 20 ตร.ม. สามารถจัดวางพื้นที่ได้หลายโซน อาจทำครัวแยกเป็นครัวปิด และครัวเปิด ร่วมกันก็ได้ครับ 

ดูรูปแบบครัวที่จะต่อเติม ครัวเปิดหรือครัวปิด

การเลือกรูปแบบห้องครัวที่จะต่อเติมระหว่าง ครัวเปิด หรือ ครัวปิด เป็นอีกคำถามยอดฮิตของหลายคนที่กำลังคิดจะต่อเติมห้องครัว ซึ่งถามว่าเลือกแบบไหนดีกว่า ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับสไตล์การใช้งาน และความต้องการส่วนตัวของแต่ละคนจริง ๆ ครับ แน่นอนว่าความชอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว นอกจากนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ที่สำคัญต้องดูเรื่องของขนาดพื้นที่ที่สามารถต่อเติมได้  เพราะแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป 

ครัวเปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารแล้วยังสามารถพูดคุยกับสมาชิกในบ้านได้ในเวลาเดียวกัน หรือบางคนอาจจะชอบบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง และไม่อึดอัด โดยส่วนมากห้องครัวเปิดมักจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น หรือห้องรับประทานอาหาร ทำให้การใช้พื้นที่ร่วมกันดูลงตัวมากกว่า 

ครัวปิด เหมาะกับคนที่ไม่อยากให้กลิ่นอาหารหรือควันกระจายไปทั่วบ้าน หรือบางทีอาจจะต้องการความเป็นส่วนตัวเวลาทำอาหาร เพราะครัวปิดจะช่วยป้องกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน แถมยังทำให้บ้านดูเรียบร้อย และสะอาดตา เป็นการแยกโซนที่ดีเลยครับ 

รูปแบบเคาน์เตอร์ครัว เคาน์เตอร์ครัวไทยหรือเคาน์เตอร์ครัวฝรั่ง

เคาน์เตอร์ครัวไทย มักจะนิยมเป็นเคาน์เตอร์ครัวปูน แข็งแรงทนทาน ไม่กลัวน้ำ ไม่กลัวปลวกเพื่อรองรับการใช้งานที่ตอบโจทย์ ตัวท็อปเคาน์เตอร์หล่อคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อความแข็งแรงและปิดผิวด้วยกระเบื้องหรือแผ่นหิน ส่วนขาเคาน์เตอร์จะก่ออิฐมวลเบา ฉาบปูน ปูกระเบื้อง เพื่อความเรียบร้อยสวยงามและทำความสะอาดง่าย ส่วนใหญ่เคาน์เตอร์ครัวไทยมักจะมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารและการทำงานหลาย ๆ อย่างในที่เดียว รวมไปถึงการจัดเก็บของที่ต้องการใช้งานบ่อยอย่างเครื่องปรุง

ในส่วนของ เคาน์เตอร์ครัวฝรั่ง จะเน้นทำอาหารง่าย ๆ เบา ๆ อย่างอบขนม นึ่ง หรือเตรียมอาหารแบบไม่เลอะเทอะมาก สไตล์เรียบหรู เน้นความสะอาด อาจมีไอซ์แลนด์กลางห้อง เตาอบใหญ่ ๆ และเคาน์เตอร์กลางสำหรับเตรียมอาหารและเป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหารไปในตัว ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จะใช้การบิวท์อินเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ

ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องรัวว่า เราอยากได้แบบครัวไทย หรือ ครัวฝรั่ง

กฎหมายต่อเติมบ้านที่เกี่ยวข้อง

โดยทั่วไปแล้วการต่อเติมห้องครัวที่ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยเกิน 5 ตร.ม. หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบ้าน เช่น เพิ่มเสา คาน หรือผนัง จะต้องขออนุญาตจากสำนักงานเขต หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ก่อนเริ่มดำเนินการ ส่วนการต่อเติมห้องครัวเล็กน้อยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง และมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5 ตร.ม. อาจไม่จำเป็นต้องขออนุญาต แต่ควรแจ้งให้เพื่อนบ้านทราบก่อนเพื่อป้องกันปัญหาภายหลังด้วยครับ มาดูกันว่ามีกรณีไหนบ้างที่สามารถต่อเติมได้โดยไม่ต้องขออนุญาตกันบ้างครับ

  • ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 10 ตร.ม. หรือไม่เกิน 2 ชั้น
  • การปรับปรุงภายในบ้าน เช่น การทาสี เปลี่ยนพื้น ปูกระเบื้อง หรือติดตั้งครัวบิวท์อิน
  • การเพิ่มหรือลดพื้นที่ รวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเสาหรือคาน
  • การปรับขนาดหรือรูปทรงขององค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างหรือประตู โดยที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% จากเดิม
  • การเปลี่ยนวัสดุในส่วนที่ไม่ถือเป็นโครงสร้างหลักของบ้าน น้ำหนักไม่เกิน 10% จากของเดิม
  • การปรับหรือเพิ่มหลังคา โดยไม่เพิ่มหรือลดเสาและคาน และน้ำหนักทั้งหมดไม่เกิน 10% ของน้ำหนักเดิม

คำนวณงบประมาณ และทีมช่าง

การคำนวณงบประมาณสำหรับการต่อเติมครัว เป็นสิ่งแรกที่ต้องวางแผนเลยครับ อย่างน้อยเราจำเป็นต้องรู้งบประมาณคร่าว ๆ ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่บานปลาย ดังนั้นควรขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมาหลายรายมาเปรียบเทียบราคา เพื่อเลือกผู้รับเหมาที่มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพ ได้ผลงานคุ้มค่าในระยะยาว 

เมื่อได้ราคาเป็นเลขกลมคร่าว ๆ แล้ว ให้ลองกำหนดวงเงินสูงสุดที่คุณจะใช้ในการต่อเติมครัว แล้วแบ่งงบประมาณเป็นส่วนๆ เช่น ค่าวัสดุก่อสร้าง 40% ค่าแรงช่าง 30% ค่าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ 20% และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าขออนุญาต ค่าขนส่ง 10% ซึ่งเราสามารถหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เช่น ทำงาน DIY เองบางส่วน หรือซื้อวัสดุจากร้านค้าส่ง หากใครไม่ซีเรียสก็ลองหันมาดูของใช้มือสองก็ได้ครับ

ถ้าอยากได้ความมั่นคงในระยะยาว ควรจะต้องวางแบบฐานราก วางปลั๊กไฟ ท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง ถังบำบัดน้ำเสีย บ่อดักไขมันให้ดี ต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต ควรตั้งงบประมาณเผื่อตรงนี้ไว้ประมาณ 150,000 บาทขึ้นไปครับ ที่สำคัญที่เป็นข้อควรระวังสำหรับคนที่มีงบจำกัด คือ อย่าตัดทอนคุณภาพครับ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำ อาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคต และอย่าลืมเผื่อเงินสำรองกรณีฉุกเฉินกับค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงด้วยนะครับ

ตัวอย่างงบประมาณสำหรับห้องครัวขนาด 12 ตร.ม.

  • ค่าวัสดุรวมโครงสร้าง ผนังห้อง ปูพื้น เคาน์เตอร์ครัว และค่าวัสดุอื่นราคาคร่าว ๆ ประมาณ 65,000 – 140,000 บาท
  • ค่าแรงช่าง รวมก่อสร้าง ปูกระเบื้อง ระบบไฟ ระบบประปา ราคาคร่าว ๆประมาณ 40,000 – 80,000 บาท

ซึ่งรวมแล้วงบคร่าว ๆ ก็คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับความการดีไซน์ ฟังก์ชัน วัสดุ และการเก็บรายละเอียดงานครับ 

ต้องไม่ลืมเสา คาน และหลังคา

หัวใจหลักของความแข็งแรง การใช้งานให้คุ้มค่าในระยะยาวก็ต้องไม่ลืมโครงสร้างหลักอย่างเสา คาน และหลังคาครับ เพื่อให้รองรับน้ำหนักและกันแดดกันฝนได้ดี ดังนั้นเพื่อให้รองรับน้ำหนักได้เต็มที่เราต้องทำความเข้าใจโครงสร้างกันก่อนครับ การต่อเติมอาจมีผลกระทบต่อความแข็งแรง และความปลอดภัยของตัวบ้านเดิม ดังนั้นไม่ควรต่อเติมฝากน้ำหนักไว้กับตัวบ้านเดิมควรแยกโครงสร้างระหว่างบ้านเดิมกับส่วนต่อเติม  เพราะอาจทำให้เกิดการแตกร้าวในอนาคตได้ครับ ทั้งสองส่วนอาจมีการขยายตัวหรือหดตัวไม่เท่ากันตามอุณหภูมิหรือการสั่นสะเทือนนั่นเองครับ 

ในส่วนของรูปแบบเสาเข็ม ที่การรองรับน้ำหนักทั้งหมดของส่วนที่ต่อเติม จำเป็นต้องมีทีมผู้เชี่ยวชาญเลือกให้ครับ ขนาดเสาเข็มที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของส่วนที่ต่อเติมเข้าไป ดังนั้นการเลือกขนาดและรูปแบบเสาเข็มจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ อธิบายง่าย ๆ คือ ยิ่งส่วนต่อเติมมีน้ำหนักมากเท่าไหร่ เสาเข็มก็ต้องมีขนาดใหญ่และมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น รวมไปถึงสภาพดินที่มีผลต่อการเลือกชนิดของเสาเข็ม เช่น ดินอ่อนจะต้องใช้เสาเข็มที่ยาว และมีขนาดใหญ่กว่าดินแข็งนั่นเองครับ ซึ่งประเภทของเสาเข็มที่นิยมใช้ในการต่อเติมบ้าน แบ่งออกได้เป็น 4 แบบคือ 

  • เสาเข็มสปัน : เป็นเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20-100 เซนติเมตร เหมาะสำหรับงานก่อสร้างขนาดกลางถึงใหญ่ มีความแข็งแรงสูง และติดตั้งได้ง่าย
  • เสาเข็มเจาะ : เป็นเสาเข็มที่ทำจากคอนกรีต โดยการเจาะหลุมลงไปในดินแล้วเทคอนกรีตลงไป เหมาะสำหรับดินที่อ่อนตัวและรับน้ำหนักได้มาก มีความแข็งแรงสูง แต่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
  • เสาเข็มไมโครไพล์ : เป็นเสาเข็มที่มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดและงานต่อเติมที่ไม่ต้องการรบกวนบ้านข้างเคียง มีความแข็งแรงสูงและติดตั้งได้รวดเร็ว
  • เสาเข็มหกเหลี่ยม : เป็นเสาเข็มที่มีรูปทรงหกเหลี่ยม ซึ่งจะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่าเสาเข็มทรงกลม โดยทั่วไปจะใช้ในพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักสูง

และสุดท้ายในส่วนของหลังคา ห้องครัวจะระบายอากาศได้ดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบหลังคาด้วยครับ ควรเน้นหลังคาที่ช่วยให้อากาศไหลเวียนสะดวก อาจใช้เป็นหลังคาเมทัลชีทกรุฉนวนกันความร้อนพียูโฟม ทนต่อสภาพอากาศ ดูแลรักษาง่าย ราคาไม่แพง และอายุการใช้งานยาวนาน หรือหลังคาโปร่งแสงให้ครัวดูโปร่ง โล่งสบาย ประหยัดค่าไฟ และอาจเพิ่มช่องลมด้วยหลังคา 2Step เปิดช่องลม ช่วยรับลมธรรมชาติ อากาศในครัวปลอดโปร่งถ่ายเทสะดวก ข้อสำคัญอย่าลืมติดตั้งระบบระบายอากาศด้วยนะครับ

อย่าลืมใส่ใจพื้นครัว

พื้นครัวจำเป็นต้องรองรับน้ำหนักได้ดี ทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมเชื้อโรค ทนทาน หากพื้นที่ส่วนต่อเติมยังไม่มีโครงสร้าง ต้องลงเข็มทำโครงสร้างฐานราก เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการต่อเติม หัวใจสำคัญที่ต้องตรวจเช็คเป็นอันดับแรกก่อนต่อเติม คือ พื้นมีโครงสร้างฐานรากพร้อมต่อเติมได้เลยหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการทรุดตัว เพราะครัวหนักอย่างครัวของคนไทยส่วนมากมักวางเคาน์เตอร์ครัวปูนขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องความแข็งแรงและการยุบตัวของดิน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาแตกร้าวในอนาคตด้วยครับ

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัว อีกส่วนที่ต้องใส่ใจคือ พื้นห้องครัว

ต้องรู้และใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในห้องครัว

ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าส่วนอื่นในบ้านใช่ไหมครับ ทั้งความร้อน ไฟ น้ำ ของมีคม หรือแม้แต่การลื่นล้ม ดังนั้นถ้าอยากได้ครัวที่ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยควรใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยจากไฟฟ้า ป้องกันการลื่น เก็บของมีคมให้ปลอดภัย การระบายอากาศได้ดี  จัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม ให้สามารถเคลื่อนไหวสะดวกไม่รู้สึกแออัด ลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้

ถ้าจะทำครัวให้ใช้งานสะดวก ควรแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน ทั้งพื้นที่ล้าง พื้นที่เตรียมวัตถุดิบ พื้นที่ปรุง และพื้นที่จัดเก็บ จะได้ทำอาหารได้ไม่มีสะดุด ซึ่งควรจะมี 4 โซนหลัก ได้แก่

  • โซนล้าง สำหรับล้างผัก ล้างเนื้อสัตว์ และทำความสะอาดภาชนะ ควรอยู่ใกล้จุดทิ้งขยะและมีพื้นที่ให้ของแห้งหลังล้าง
  •  โซนเตรียมอาหาร ใช้สำหรับหั่น ซอย หมัก หรือจัดเตรียมวัตถุดิบก่อนปรุง ควรมีพื้นที่กว้างพอและอยู่ใกล้โซนล้างเพื่อหยิบใช้สะดวก
  •  โซนปรุงอาหาร เป็นที่ตั้งเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า ควรมีที่วางเครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหารให้หยิบง่าย และมีเครื่องดูดควันช่วยระบายอากาศ
  • โซนจัดเก็บ สำหรับเก็บของใช้ในครัว ทั้งเครื่องครัว วัตถุดิบ และของแห้ง ควรแบ่งให้เป็นระเบียบ หยิบใช้ง่าย

วัสดุพื้นผิวเคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัวเป็นส่วนที่ต้องรับการใช้งานหนัก ทั้งการเตรียมอาหาร การทำความสะอาด และการจัดเก็บของ จึงต้องเลือกวัสดุพื้นผิวที่ทนทาน ป้องกันการแตกร้าว การรั่วซึม ความร้อนจากเตา และรองรับน้ำหนักได้ดี ซึ่งมีวัสดุหลายชนิดที่นิยมนำมาใช้กัน ดังนี้ครับ

  • หินแกรนิต (Granite) มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ทนทานต่อรอยขีดข่วน ความร้อน และน้ำสูง ทำความสะอาดง่าย ไม่ดูดซึมน้ำ แต่ราคาสูงและต้องทำการเคลือบผิวเพื่อป้องกันคราบน้ำหรือคราบมัน
  • หินสังเคราะห์ (Quartz) ทนทานไม่แตกหักง่าย ทนรอยขีดข่วนได้ดี ดูแลรักษาง่าย มีสีและลวดลายให้เลือกเยอะ
  • หินอ่อน (Marble) ขึ้นชื่อเรื่องความลักชูรี่ก็ต้องหินอ่อนครับ ดูหรูหรามีสไตล์ และเหมาะกับการตกแต่งที่เน้นความคลาสสิก ทนรอยขีดข่วนและความร้อนได้ในระดับหนึ่ง แต่เกิดรอยด่างจากกรดได้ง่าย
  • ไม้ (Wood) ให้ความรู้สึกอบอุ่น สไตล์โฮมมี่ เข้ากับการตกแต่งหลากหลายสไตล์ มีราคาค่อนข้างถูก แต่การดูแลค่อนข้างยากกว่าแบบอื่นครับ
  • สแตนเลส (Stainless Steel) เหมาะกับครัวที่มีการทำอาหารอย่างหนัก เช่น ห้องครัวร้านอาหาร ทำความสะอาดง่าย แต่อาจมีรอยขีดข่วนให้เห็นอยู่เยอะ 
  • ลามิเนต (Laminate) วัสดุที่ราคาประหยัด ทนต่อการใช้งานได้ดี แต่ไม่ทนความร้อนสูงและหากโดนน้ำมากเกินไปอาจบวมได้
  • คอนกรีต (Concrete) ที่สุดของความแข็งแกร่ง สามารถปรับรูปทรงและทำลวดลายได้ตามต้องการ ราคาถูก
  • กระเบื้อง (Tiles) มีลวดลายและสีให้เลือกเยอะ ไม่จำเจ แต่ต้องเลือกกระเบื้องที่ทนรอยขีดข่วนและความร้อน

พื้นที่ห้องและรูปแบบเคาน์เตอร์

เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน ทำความสะอาดง่าย ใช้งานสะดวก ขั้นแรกต้องดูว่าเรามีขนาดพื้นที่ที่สามารถต่อเติมเป็นห้องครัวเท่าไหร่ แล้วจึงมาดูกันว่าความต้องการ และสไตล์รสนิยมการทำอาหารของเจ้าของบ้านเป็นยังไง แล้วจึงดูการจัดวางอ่างล้างจาน เตา และตู้เย็น ให้อยู่ใกล้กันโดยมีระยะห่างที่พอเหมาะ เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวหยิบจับสิ่งของได้สะดวก ส่วนความสูงของเคาน์เตอร์ ควรเหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้งาน เพื่อลดอาการปวดเมื่อยถ้าอยู่ในครัวนาน ๆ ช่วยให้ทำครัวได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ดังนั้นมาดูกันว่าแต่ละบ้านเหมาะกับครัวรูปแบบไหนบ้าง

  • ครัวรูปตัว I : เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่ไม่มากนัก ไม่ได้ทำครัวหนักมาก ขนาดกำลังน่ารัก
  • ครัวรูปตัว L : เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก สามารถจัดวางเตาปรุงอาหาร อ่างล้างจาน และเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L
  • ครัวรูปตัว U : เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดกลาง สามารถจัดวางเครื่องใช้ได้รอบด้าน
  • ครัวแบบมีเกาะกลาง หรือ Island : เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถจัดวางเตาปรุงอาหาร อ่างล้างจาน และเคาน์เตอร์ไว้บนเกาะกลาง

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนต่อเติมคือพื้นที่ห้องและรูปแบบเคาน์เตอร์ เพื่อให้สะดวกและเหมาะสม

ระยะห่างที่เหมาะสมของเครื่องใช้ในครัว

  • ระหว่างเตาปรุงอาหารกับอ่างล้างจาน : ควรมีระยะห่างอย่างน้อย 60-90 ซม. เพื่อให้มีพื้นที่วางหม้อและกระทะ
  • ระหว่างเตาปรุงอาหารกับตู้เย็น : ควรมีระยะห่างอย่างน้อย 30 ซม. เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เย็นได้รับความร้อนจากเตามากเกินไป
  • ระหว่างอ่างล้างจานกับตู้เย็น : ควรมีระยะห่างอย่างน้อย 60 ซม. เพื่อให้สามารถเปิดประตูตู้เย็นได้สะดวก
  • ความสูงของเคาน์เตอร์ : ควรมีความสูงประมาณ 85-90 ซม. เพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้งานส่วนใหญ่

แสงสว่างและการเดินสายไฟใหม่

การออกแบบแสงสว่างและการเดินสายไฟในห้องครัว ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามอย่างเดียวครับ แต่ยังเกี่ยวกับการใช้งานและความปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งเราต้องคำนึงถึงแสงที่เพียงพอ ตำแหน่งการเดินสายไฟควรห่างจากแหล่งน้ำ และต้องให้สะดวกต่อการใช้งานในทุกจุด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากไฟฟ้า เพราะครัวเป็นพื้นที่เสี่ยงจากการใช้น้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรใช้สายไฟที่มีคุณภาพ ทนความร้อนและความชื้นได้ดี ป้องกันไฟฟ้ารั่ว 

และเพื่อให้ห้องครัวดูสว่าง แบบไม่อึดอัด ควรเน้นการเพิ่มแสงธรรมชาติด้วยการใช้กระจกหรือวัสดุโปร่งแสงในบางส่วนของครัว เช่น ติดตั้งประตูกระจก หน้าต่าง การเพิ่มช่องแสงหลังคา ติดตั้งแผ่นใส การยกStepหลังคา2ชั้น ช่วยให้ห้องครัว โปร่ง โล่ง สบายตา อาการถ่ายเทไม่อึดอัด ไม่ทำให้ครัวดูคับแคบ และช่วยให้แสงธรรมชาติสามารถเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้น แต่หากต้องการให้ห้องครัวดูสว่างมากขึ้นอาจใช้การตกแต่งด้วยสีโทนสว่าง ปูพื้นด้วยกระเบื้องโทนอ่อน นอกจากทำให้ดูสว่างขึ้นแล้วยังทำความสะอาดง่าย ทนทานต่อรอยขีดข่วนด้วยครับ

ทำผนังกันเปื้อนและพื้นกันลื่น

ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่เราทำอาหารทุกวัน คงไม่แปลกที่บางครั้งจะมีน้ำมันหรือคราบอาหารเลอะไปทั่วผนังหรือพื้น เพราะฉะนั้นการเลือกวัสดุที่เหมาะกับห้องครัวเช่น ผนังกันเปื้อน และ พื้นกันลื่น ไม่เพียงแค่ช่วยให้ครัวดูสะอาดเรียบร้อย แต่ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นหรือล้มได้ด้วย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ 

ผนังกันเปื้อน ควรเลือกวัสดุที่สามารถทำความสะอาดง่ายและไม่เก็บสะสมคราบ เช่น กระเบื้องเซรามิก หรือแผ่นสแตนเลส ที่ทนทาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีคราบน้ำมันหรือคราบอาหารฝังลึก ช่วยให้ผนังครัวดูสะอาดตลอดเวลา

พื้นกันลื่น ก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะการทำอาหารในครัวอาจทำให้พื้นลื่นจากน้ำหรือน้ำมัน จึงควรเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติกันลื่นอย่าง กระเบื้องพอร์ซเลน หรือยางกันลื่น  เพื่อความปลอดภัยในห้องครัวครับ

ไอเดียแบบครัวหลังบ้านที่ได้รับความนิยม

วันนี้เรามีแบบครัวหลังบ้านที่ได้รับความนิยมมาฝากกันครับ รับรองว่าแต่ละแบบสวยโดนใจแถมยังใช้ประโยชน์ได้เต็มที่แน่นอนครับ

สไตล์โมเดิร์น (Modern Kitchen) 

การออกแบบยอดฮิตที่มักเห็นได้ตามโครงการบ้านทั่วไป เป็นโทนที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สะอาดตา แต่มีความทันสมัย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความเรียบง่าย และความทันสมัย โดยใช้สีขาว ดำ เทา เป็นหลัก และตกแต่งด้วยวัสดุที่ดูทนทานอย่างพวกสแตนเลส เหล็ก และกระจก ตบท้ายด้วยการตกแต่งแสงไฟแอลอีดีใต้ตู้หรือเคาน์เตอร์ ให้ดูมีความลักชูรี่ขึ้น

สไตล์มินิมอล (Minimal Kitchen)

ครัวยอดนิยมในยุคนี้ ถ้าไม่พูดถึงครัวแบบมินิมอลคงไม่ได้เลย เป็นสไตล์ที่ดูสะอาดตา ไม่อึดอัด ไม่รก ให้ความเรียบง่าย ด้วยการใช้โทนสีอ่อน อย่างสีขาว สีครีม หรือสีพาสเทลเข้ามาช่วย  โดยจะเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์สีไม้ หรือกระเบื้องลายไม้ เพื่อให้ห้องครัวมีความอบอุ่นขึ้น สามารถตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการนำต้นไม้เล็ก ๆ หรือกระถางมาวางไว้ให้ดูมินิมอลขึ้นได้

สไตล์ลอฟต์ (Loft Kitchen) 

เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความเท่ ความดิบของวัสดุ เป็นการใช้โครงสร้างเหล็ก ผนังปูนเปลือย และตกแต่งง่าย ๆ ด้วยการเพิ่มไฟแบบแขวน ชั้นวางเหล็กหรือไม้โทนสีน้ำตาลดำเพื่อให้ดูคลูขึ้น เพิ่มความโมเดิร์นด้วยการโชว์โครงสร้าง ใช้วัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติแบบดิบ ๆ ให้ได้ความเรียบง่ายที่แฝงด้วยความทันสมัย และมีเอกลักษณ์ในตัวเอง

สไตล์ไทยร่วมสมัย (Contemporary Thai Kitchen)

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารไทยเป็นชีวิตจิตใจ เพราะการทำอาหารหนัก ๆ แน่น่อนว่าคงเลี่ยงควันหรือกลิ่นไม่ได้ ดังนั้นการออกแบบจะเน้นไปในความแข็งแรงของเคาน์เตอร์ครัวเป็นพิเศษ และปูพื้นด้วยกระเบื้อง ง่ายต่อการทำความสะอาด ไม่กักเก็บเชื้อโรค ที่สำคัญบ้านไหนที่เป็นพื้นที่ปิดไม่มีลมผ่าน ควรมีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศ เพราะแน่นอนว่าการทำอาหารไทยที่รสชาติจัดจ้านต้องมาพร้อมกลิ่นที่คละคลุ้งเช่นกัน

สไตล์อิงลิชคันทรี (English Country Kitchen)

ด้วยเสน่ห์ของสไตล์อิงลิชคันทรี ที่ให้ความคลาสสิก อบอุ่นเป็นกันเอง โดยเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ หรือหินอ่อน หินแกรนิต หรือกระเบื้องลายดอกไม้ หรือโทนสีอบอุ่นและคุมโทนด้วยสีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีครีม สีเบจ หรือสีพาสเทลอ่อน ๆ เมื่ออยู่ร่วมกันกับสีน้ำตาลของเฟอร์นิเจอร์ไม้ จะได้ห้องครัวที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในชนบทของอังกฤษ ตบท้ายด้วยการเพิ่มลูกเล่นด้วยของตกแต่งเล็กน้อย เช่น โปสเตอร์ภาพวาด หรือแจกันดอกไม้ก็ได้เช่นกัน เพียงแค่นี้ก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ดูเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัวแล้วครับ

หากใครยังต้องการไอเดียเพิ่มเติม สามารถติดตามบทความจาก ADDZestHome ได้ทุกช่องทาง เพราะเรายังมีไอเดียใหม่ ๆ พร้อมเทคนิคดี ๆ เข้าใจง่ายมาแชร์กันเรื่อย ๆ ครับ  25 ไอเดีย ต่อเติมห้องครัว ช่วยเพิ่มการใช้สอย และสวยตามเทรนด์ 2025

ต่อเติมห้องครัวกับ ADDZestHome

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการจบทุกปัญหาจุกจิก งบไม่บานปลาย ได้งานตรงปกไม่จกตา “ADDZestHome” เราเป็นผู้เชี่ยวชาญผู้ให้บริการงานต่อเติมทุกรูปแบบ รับต่อเติมบ้าน ด้วยประสบการณ์ต่อเติมบ้านครบวงจรในประเทศไทย เรายินดีให้บริการงานต่อเติมบ้านสำหรับบ้านทุกแบบ ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ด้วยประสบการณ์ต่อเติมบ้านกว่า 300 หลัง ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมส่งมอบงานคุณภาพ หมดกังวลกับปัญหาช่างทิ้งงาน อัปเดตงานทุกระยะการต่อเติม เจ้าของบ้านสามารถดูความคืบหน้างานได้ผ่านทางไลน์ พร้อมรับประกันหลังการขาย 1 ปี

“ADDZestHome” เราเป็นทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเติมบ้าน มีการลงสำรวจหน้างาน สร้างแบบร่าง 3 มิติ ทำให้เห็นภาพรวมของงานก่อนเริ่มงานจริง เมื่อเกิดปัญหา อุปสรรคระหว่างต่อเติม ทีมงานสามารถหาวิธีแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้งานลุล่วงไปได้ด้วยดี และส่งมอบงานตรงเวลา นอกจากนี้เรายินดีปฏิบัติตามกฎของนิติบุคคลอย่างเคร่งครัด ไม่สร้างผลกระทบต่อส่วนรวม และเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ใช้สอยให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

สรุปสิ่งต้องรู้ก่อนต่อเติมห้องครัวปี 2025

มาถึงตรงนี้มีใครมีแบบห้องครัวในใจแล้วบ้างไหมครับ แน่นอนว่าแบบครัวที่ชอบ สไตล์ที่ใช้ ผู้อยู่อาศัยจะตอบตัวเองได้ดีที่สุดครับว่าต้องการแบบไหน ดังนั้นอย่างที่ได้ย้ำกันไปครับว่าการต่อเติมห้องครัวต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้การใช้งานสะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่าในระยะยาว เริ่มจากการตั้งงบประมาณที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกินกำลัง เลือกวัสดุที่ทนทานและทำความสะอาดง่าย อย่ามองข้ามเรื่องจุกจิกนะครับ ทั้งเรื่องแสงสว่าง ตำแหน่งปลั๊กไฟ การระบายอากาศ เพื่อให้ครัวไม่ร้อนและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วยนะครับ 

หากไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่อยากยุ่งยาก สามารถไว้วางใจต่อเติมห้องครัวกับ ADDZestHome เรารับจบให้เองได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนไหน เราสามารถจัดการให้คุณได้หมดทุกขั้นตอน หมดกังวลทุกปัญหาเรื่องการต่อเติม เพียงแค่ไว้ใจให้เราดูแลก็จะได้ครัวในฝันที่ใจตามหา และตอบโจทย์การใช้งานแล้วครับ

ติดต่อเรา

ADDZestHome ยืนหนึ่งเรื่องงานต่อเติมทาวน์โฮม

เรายินดีให้บริการต่อเติมบ้านครบวงจรโดยทีมงานคุณภาพ ไม่มีประวัติทิ้งงาน พร้อมรับประกันผลงานหลังต่อเติม

Scroll to Top